คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) ได้เสนอแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. 2546 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 ตามร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 และแก้ไขระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ตามร่างระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 เสนอที่ประชุม กชก. ครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธานกรรมการเพื่อพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้แก้ไขระเบียบกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนตามที่เสนอให้มีบทบาทเพิ่มมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาของกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ดังนี้
(1) ขยายเจ้าหนี้ในระบบจากเดิมเฉพาะธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ เพิ่มเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อม (SME) และสถาบันเกษตรกร ที่เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ (เฉพาะเจ้าหนี้สหกรณ์ประเภทสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน) ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(2) แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์กรณีกู้ยืมเพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งผู้กู้ยืมไม่ได้นำที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันด้วย
(3) ขยายวัตถุประสงค์ของกองทุนหมุนเวียนฯ ซึ่งปัจจุบันให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน เฉพาะกรณีกู้ยืมเพื่อปลดเปลื้องหนี้สินและไถ่ถอนที่ดินคืน ให้ขยายวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในเรื่องการกู้ยืมเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูอาชีพ ในลักษณะเป็นกลุ่มเกษตรกรด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(4) ขยายวงเงินกู้จากเดิมวงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 5 แสนบาท เป็นสูงสุดไม่เกินรายละ 2.5 ล้านบาท
(5) แก้ไขอัตราดอกเบี้ยจากเดิมให้เกษตรกรและผู้ยากจนกู้ยืมจากกองทุนหมุนเวียนฯ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 1-4 บาทต่อปี ตามวงเงินที่ขอกู้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มิถุนายน 2550--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน (กชก.) ได้เสนอแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. 2546 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 ตามร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 และแก้ไขระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 ตามร่างระเบียบว่าด้วยการบริหารกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 เสนอที่ประชุม กชก. ครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม) เป็นประธานกรรมการเพื่อพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบให้แก้ไขระเบียบกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนตามที่เสนอให้มีบทบาทเพิ่มมากยิ่งขึ้นเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาของกลุ่มเกษตรกรดังกล่าว รวมทั้งกลุ่มเกษตรกรอื่น ๆ ที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ดังนี้
(1) ขยายเจ้าหนี้ในระบบจากเดิมเฉพาะธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ เพิ่มเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อม (SME) และสถาบันเกษตรกร ที่เป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ (เฉพาะเจ้าหนี้สหกรณ์ประเภทสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน) ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(2) แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์กรณีกู้ยืมเพื่อชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ซึ่งผู้กู้ยืมไม่ได้นำที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในที่ดินให้เจ้าหนี้ยึดถือไว้เป็นประกันด้วย
(3) ขยายวัตถุประสงค์ของกองทุนหมุนเวียนฯ ซึ่งปัจจุบันให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน เฉพาะกรณีกู้ยืมเพื่อปลดเปลื้องหนี้สินและไถ่ถอนที่ดินคืน ให้ขยายวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในเรื่องการกู้ยืมเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูอาชีพ ในลักษณะเป็นกลุ่มเกษตรกรด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(4) ขยายวงเงินกู้จากเดิมวงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 5 แสนบาท เป็นสูงสุดไม่เกินรายละ 2.5 ล้านบาท
(5) แก้ไขอัตราดอกเบี้ยจากเดิมให้เกษตรกรและผู้ยากจนกู้ยืมจากกองทุนหมุนเวียนฯ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี เป็นอัตราร้อยละ 1-4 บาทต่อปี ตามวงเงินที่ขอกู้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มิถุนายน 2550--จบ--