ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ครั้งที่ 10/2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 12, 2011 09:00 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เสนอ ดังนี้

1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ครั้งที่ 10/2553

2. เห็นชอบตามมติของคณะกรรมการฯ ดังนี้

2.1 มอบหมายให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง (กค.) ตรวจสอบความชัดเจนของข้อกฎหมายที่รองรับหรือให้อำนาจการใช้เงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Development Policy Loan : DPL) สำหรับการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เพื่อให้การใช้จ่ายเงินสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และเสนอวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ และแนวทางการจัดสรรเงินกู้ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

2.2 เห็นควรให้กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิจารณาดำเนินการ ดังนี้

2.2.1 โครงการที่ได้ดำเนินการและเบิกจ่ายแล้ว ติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการในด้านผลลัพธ์หรือ ผลสำเร็จของโครงการตามดัชนีชี้วัดที่กำหนดไว้

2.2.2 โครงการที่ยังไม่ได้ขอรับจัดสรรเงินจากสำนักงบประมาณ (สงป.) และโครงการที่ยังไม่เริ่มดำเนินการควรพิจารณายกเลิกโครงการและนำเงินมาใช้ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งมีความเร่งด่วนก่อน

2.2.3 โครงการที่ขอขยายระยะเวลาการขอรับจัดสรรเงินจาก สงป. และขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการออกไปเกินกว่าปี 2555 ควรตรวจสอบว่าโครงการดังกล่าวได้มีการผูกพันสัญญาไว้แล้วหรือไม่ หากยังไม่มีการผูกพันสัญญาควรพิจารณานำเงินมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งมีความเร่งด่วนก่อน และหากเป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนสูงควรพิจารณาทางเลือกในการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนหรือจัดสรรงบประมาณดำเนินการจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

สศช. รายงานว่า

1. คณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมครั้งที่ 10/2553 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2553 โดยพิจารณาเรื่อง ความก้าวหน้าของเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) และความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สาขาพัฒนาการท่องเที่ยว ดังนี้

3.1 ความก้าวหน้าของเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) คณะกรรมการฯ มีความเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการกู้เงิน DPL ว่าคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาได้มีมติให้ความเห็นชอบในร่างสัญญาเงินก็ DPL วงเงินรวม 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เสนอโดย กค. (มติคณะรัฐมนตรี 27 เมษายน 2553) ซึ่งระบุวัตถุประสงค์หนึ่งในการใช้เงินกู้ดังกล่าวเพื่อดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 รวมทั้งได้นำเสนอความก้าวหน้าของเงินกู้ DPL ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบแล้ว กค. ควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่ามีกฎหมายรองรับหรือให้อำนาจการใช้เงินกู้ดังกล่าวเพื่อดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 หรือไม่ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากโดยปกติการใช้จ่ายเงินจะต้องผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบของรัฐสภา และต้องมีกฎหมายรองรับและควรเสนอวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ และแนวทางการจัดสรรเงินกู้ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไปด้วย

3.2 ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สาขาพัฒนาการท่องเที่ยว คณะกรรมการฯ มีความเห็นสรุปได้ ดังนี้

3.2.1 โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สาขาพัฒนาการท่องเที่ยว มีการเบิกจ่ายเงินกู้ ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553 จำนวน 1,916.42 ล้านบาท จากวงเงินที่ได้รับจัดสรร 2,490.56 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.95 โดยการดำเนินโครงการประสบปัญหาอุปสรรค เกิดความล่าช้า เนื่องจาก

1) การดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงภูมิทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยวที่มีวงเงินลงทุนสูง และอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน จำเป็นต้องสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่

2) บางโครงการจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ป่าตามธรรมชาติ จึงสามารถใช้เพียงแรงงานคนเพื่ออนุรักษ์สภาพแวดล้อม

3) หน่วยงานที่ดำเนินโครงการขนาดใหญ่ขาดบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน ทั้งด้านการออกแบบอาคารขนาดใหญ่และด้านธุรกิจการตลาด

3.2.2 โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติภูเก็ต วงเงินลงทุน 2,600 ล้านบาท ของกรมธนารักษ์ กค. ที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการขอรับจัดสรรเงินจาก สงป. และการลงนามในสัญญาเป็นภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2555 และขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการเป็นภายในปี 2557 (มติคณะรัฐมนตรี 27 เมษายน 2553) จะทำให้ กค. ต้องกู้เงินมาไว้ล่วงหน้าเป็นระยะเวลาถึง 2 — 4 ปี ก่อนที่จะมีการเบิกจ่ายจริงควรตรวจสอบว่าโครงการดังกล่าวได้มีการผูกพันสัญญาไว้แล้วหรือไม่ โดยหากยังไม่มีการผูกพันสัญญาควรพิจารณานำเงินจำนวนดังกล่าวมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งมีความเร่งด่วนก่อน และอาจพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณปี 2556 — 2557 ให้แก่โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ในภายหลังหรือพิจารณาทางเลือกในการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการแทน

3.2.3 แนวทางการดำเนินการสำหรับโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 สาขาพัฒนาการท่องเที่ยวสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1) โครงการที่ได้ดำเนินการและเบิกจ่ายแล้ว ควรติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการในด้านผลลัพธ์หรือผลสำเร็จของโครงการตามดัชนีชี้วัดที่กำหนดไว้

2) โครงการที่ยังไม่ได้ขอรับจัดสรรเงินจาก สงป. และโครงการที่ยังไม่เริ่มดำเนินการ ควรพิจารณายกเลิกโครงการและนำเงินมาใช้ในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งมีความเร่งด่วนก่อน

3) โครงการที่ขอขยายระยะเวลาการขอรับจัดสรรเงินจาก สงป. และขยายระยะเวลาการดำเนิน โครงการออกไปเกินกว่าปี 2555 ควรตรวจสอบว่าโครงการดังกล่าวได้มีการผูกพันสัญญาไว้แล้วหรือไม่ หากยังไม่มีการผูกพันสัญญาควรพิจารณานำเงินมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งมีความเร่งด่วนก่อน และหากเป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนสูงควรพิจารณาทางเลือกในการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนหรือจัดสรรงบประมาณดำเนินการจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 มกราคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ