การประดับธงอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 12, 2011 15:11 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. ให้ความเห็นชอบต่อร่างแนวปฏิบัติในการใช้ธงอาเซียน (Guidelines on the Use of the ASEAN Flag) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรับรองเอกสารดังกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีประสานงานอาเซียน และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างแนวปฏิบัติฯ ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยให้ กต.ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก

2. ให้สำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการตามนัยมาตรา 46 วรรคสอง (6) และวรรคสี่แห่งพระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 เพื่ออนุมัติให้ กต. ใช้ ชัก หรือประดับธงอาเซียนคู่กับธงชาติเป็นการถาวร ณ ที่ทำการของ กต. ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ (กรมอาเซียน) รวมทั้งที่ทำการคณะผู้แทนการทูตและกงสุลของไทยในต่างประเทศยกเว้นประเทศที่สมาชิกอาเซียนบางประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งนี้ กต. จะดำเนินการเสนองบประมาณเพื่อเตรียมการดังกล่าวตั้งแต่ปีงบประมาณ 2555 เป็นต้นไป

3. ให้ทุกหน่วยราชการรับทราบแนวทางการประดับธงอาเซียนดังกล่าว เพื่อพิจารณาใช้เป็นแนวปฏิบัติสำหรับการประดับธงในการจัดประชุมและจัดกิจกรรมอาเซียนในประเทศไทยต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะรัฐมนตรีเสนอร่างกฎบัตรอาเซียนเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติก่อนการลงนามของนายกรัฐมนตรีนั้น

1. สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติกฎบัตรอาเซียนเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 โดยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2550 และกฎบัตรอาเซียนมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551

2. คณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ได้รับมอบหมายให้จัดทำร่างแนวปฏิบัติในการใช้ธงอาเซียนตามข้อ 37 ของกฎบัตรอาเซียน ซึ่งกำหนดให้มีธงอาเซียน และคณะกรรมการฯ คาดว่าจะนำเสนอร่างแนวปฏิบัติดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Council) ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้การรับรองในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17- 18 มกราคม 2555 ที่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อวางแนวทางการประดับธงอาเซียนคู่กับธงชาติเป็นการถาวรในลักษณะเท่าเทียมกันที่สำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติ ที่ทำการคณะผู้แทนทางการทูตและกงสุลของชาติสมาชิกอาเซียนในต่างประเทศ ยกเว้นในประเทศที่ประเทศสมาชิกอาเซียนบางประเทศไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตและกำหนดแนวทางการประดับธงอาเซียนในการประชุมและกิจกรรมอาเซียน

3. กต.พิจารณแล้วเห็นว่า ร่างเอกสารดังกล่าวเป็นการกำหนดแนวปฏิบัติด้านพิธีการทูตในกรอบอาเซียนเพื่อให้ประเทศสมาชิกพิจารณาใช้ รวมทั้งไม่มีการลงนามจึงไม่น่าเข้าข่ายหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อย่างไรก็ดี กต. เห็นสมควรขอรับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในเชิงนโยบายก่อนการรับรองเอกสารในที่ประชุมคณะมนตรีประสานงานอาเซียนต่อไป โดยใช้งบประมาณการดำเนินการจาก กต.

4. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานราชการกำกับพระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 พิจารณาแล้วเห็นว่า

4.1 กรมอาเซียนซึ่งเป็นสำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติจะสามารถประดับธงอาเซียนได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีให้ใช้ ชัก หรือแสดงธงอาเซียน ณ กรมอาเซียน ตามนัยมาตรา 46 (6) และวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติธงดังกล่าวโดยกรมอาเซียนจะต้องถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การใช้ ชัก หรือแสดงธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร ตามที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติและธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. 2529 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดด้วย

4.2 กรณีการประดับธงอาเซียนอย่างเป็นทางการถาวร ณ สถานทูตและสถานกงสุลของประเทศสมาชิกอาเซียนคู่กับธงชาติ และให้ประเทศสมาชิกอาเซียนประดับธงในประเทศที่สามนั้นเห็นว่า หากเป็นกรณีประเทศไทยประดับธงอาเซียนอย่างเป็นการถาวร ณ สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทย ย่อมเป็นการใช้ ชัก หรือแสดงธงชาติคู่หรือร่วมกับธงของต่างประเทศ หากไม่มีลักษณะเป็นการดูถูก เหยียดหยาม หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียซึ่งเกียรติภูมิของประเทศไทยหรือชาติไทย ตามนัยระเบียบฯ ข้อ 6 แล้ว ก็สามารถกระทำได้โดยจะต้องกระทำให้เป็นไปในลักษณะที่เท่าเทียมกันตามระเบียบฯ ข้อ 21

4.3 กต. เห็นว่าแนวทางการประดับธงอาเซียนน่าจะมีส่วนเสริมสร้างความตระหนักรู้ในความเป็นอาเซียนและกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียนในหมู่ประชาชนชาวไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนโดยรวม และทำให้ประชาคมอาเซียนเป็นที่แพร่หลายในหมู่นานาประเทศยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การประดับธงอาเซียนคู่ธงชาติ ณ สถานทูตและสถานกงสุล และการลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยตามที่ระบุไว้ในร่างแนวทางฯ จะต้องเป็นไปโดยไม่ขัดต่อกฎหมายภายในของประเทศที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลของประเทศสมาชิกอาเซียนตั้งอยู่ ทั้งนี้ ตามนัยของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ค.ศ.1961 ข้อ 41 วรรคหนึ่ง

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 มกราคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ