คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเทียบเท่ากรม ตลอดจนรัฐวิสาหกิจในสังกัดต่าง ๆ และองค์การของรัฐ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง
แนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ มีดังนี้
1. สั่งข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ และลูกจ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือกลุ่มอาสาสมัครหรือกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ และสนับสนุนในการดำเนินการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการจัดบุคลากรทำหน้าที่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติเพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น เมื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ โดยให้ถือเป็นงานในหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างนั้น ๆ ด้วย
2. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น วางตัวเป็นกลางในการออกเสียงประชามติอย่างเคร่งครัดไม่ปฏิบัติการใด ๆ ในลักษณะเป็นการชี้นำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปลงคะแนนออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ
3. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป และให้คำแนะนำ ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิออกเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงในสังกัดในการไปใช้สิทธิออกเสียงด้วย
4. ให้การสนับสนุนสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดการออกเสียงประชามติ
5. ให้กระทรวงแรงงานออกประกาศเพื่อขอความร่วมมือภาคเอกชนอนุญาตให้ผู้ใช้แรงงาน และลูกจ้างที่มีสิทธิออกเสียงประชามติได้ไปใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด
6. ให้หน่วยงานด้านสื่อต่าง ๆ ของรัฐ ทั้งสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ เผยแพร่ข่าวสารการออกเสียงประชามติอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงให้มากที่สุด
7. หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ควรจัดให้มีการฝึกอบรม หรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลาประมาณ 30 วันก่อนวันออกเสียงประชามติ เพราะจะกระทบต่ออัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการไปใช้สิทธิออกเสียงของบุคลากรในสังกัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มิถุนายน 2550--จบ--
แนวทางปฏิบัติในการออกเสียงประชามติ มีดังนี้
1. สั่งข้าราชการ พนักงานเจ้าหน้าที่ และลูกจ้าง รวมทั้งขอความร่วมมือกลุ่มอาสาสมัครหรือกลุ่มเครือข่ายต่างๆ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ให้ความร่วมมือ ช่วยเหลือ และสนับสนุนในการดำเนินการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการจัดบุคลากรทำหน้าที่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติเพื่อให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น เมื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอ โดยให้ถือเป็นงานในหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างนั้น ๆ ด้วย
2. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น วางตัวเป็นกลางในการออกเสียงประชามติอย่างเคร่งครัดไม่ปฏิบัติการใด ๆ ในลักษณะเป็นการชี้นำให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไปลงคะแนนออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ
3. ให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างในสังกัดทุกประเภท และทุกระดับทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติให้เป็นตัวอย่างแก่ประชาชนทั่วไป และให้คำแนะนำ ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิออกเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงในสังกัดในการไปใช้สิทธิออกเสียงด้วย
4. ให้การสนับสนุนสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการจัดการออกเสียงประชามติ
5. ให้กระทรวงแรงงานออกประกาศเพื่อขอความร่วมมือภาคเอกชนอนุญาตให้ผู้ใช้แรงงาน และลูกจ้างที่มีสิทธิออกเสียงประชามติได้ไปใช้สิทธิออกเสียงได้อย่างทั่วถึง โดยไม่ถือเป็นวันลาหรือวันหยุด
6. ให้หน่วยงานด้านสื่อต่าง ๆ ของรัฐ ทั้งสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ เผยแพร่ข่าวสารการออกเสียงประชามติอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงให้มากที่สุด
7. หน่วยงานต่าง ๆ ไม่ควรจัดให้มีการฝึกอบรม หรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลาประมาณ 30 วันก่อนวันออกเสียงประชามติ เพราะจะกระทบต่ออัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องปฏิบัติงานการออกเสียงประชามติ รวมทั้งการไปใช้สิทธิออกเสียงของบุคลากรในสังกัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มิถุนายน 2550--จบ--