คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการของร่างประกาศกระทรวงกลาโหมกำหนดยุทธภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นเพิ่มเติมของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นเพิ่มเติมของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
กระทรวงกลาโหมเสนอว่า
1. กระทรวงกลาโหมมีภารกิจในการรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร ซึ่งภารกิจดังกล่าวรวมถึงหน้าที่ในการควบคุมอาวุธ สารเคมีบางชนิด และอุปกรณ์บางชนิดที่อาจนำไปใช้ในการปฏิบัติการทางทหารได้ โดยร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมสารเคมีที่ใช้ในทางเกษตร เป็นต้น
2. ปัจจุบันอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงได้มีการพัฒนาในรูปแบบที่แยบยลมากขึ้น เนื่องจากการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งสารเคมีบางชนิดนำมาใช้ในการผลิตอาวุธ ทำลายล้างสูง ถ้าหากไม่มีการควบคุมในการผลิต นำเข้า หรือการสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร อาจจะมีการนำสารเคมีหรืออุปกรณ์ทางทหารไปใช้ในการก่อการร้ายหรือใช้ในการก่อวินาศกรรมได้ ประกอบกับประเทศไทยมีพันธกรณีในการปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1540 ว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ด้วยเหตุนี้ สมควรต้องปรับปรุงประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 เพื่อกำหนดให้มีการควบคุมอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เป็นยุทธภัณฑ์ที่ต้องมีการควบคุม จึงได้เสนอร่างประกาศกระทรวงกลาโหมดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างประกาศกระทรวงกลาโหมกำหนดยุทธภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงกลาโหมกำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2541 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2547 และ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2548
2. กำหนดให้อาวุธและเครื่องยิง ทิ้ง หรือปล่อย กระสุน วัตถุระเบิด ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ เป็นยุทธภัณฑ์ เช่น อาวุธปืนประเภทต่าง ๆ อาวุธปืนใหญ่ อาวุธปราบเรือดำน้ำ อาวุธนิวเคลียร์ เครื่องยิงจรวด เครื่องยิงลูกระเบิด จรวด ตอร์ปิโด ลูกระเบิด ทุ่นระเบิด เป็นต้น ยกเว้นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 (ร่างข้อ 1.1 และข้อ 1.2)
3. กำหนดให้ยานพาหนะทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ ที่ใช้ในกิจการทหาร และเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนำไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้ เป็นยุทธภัณฑ์ เช่น ยานพาหนะรบ ยานพาหนะช่วยรบ รวมถึงยานที่มีการดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ทางทหาร เรือรบ เรือช่วยรบ ยกเว้นเรือที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ อากาศยานรบ อากาศยานช่วยรบ รวมถึง UAV, RPVs เครื่องมือสื่อสาร หน้ากากป้องกันต่าง ๆ เป็นต้น (ร่างข้อ 1.3)
4. กำหนดให้สารเคมีที่ใช้ในการสงครามเคมี สารเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมของวัตถุระเบิด และวัตถุระเบิดบางประเภท เป็นยุทธภัณฑ์ (ร่างข้อ 2 — ร่างข้อ 4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 สิงหาคม 2550--จบ--
กระทรวงกลาโหมเสนอว่า
1. กระทรวงกลาโหมมีภารกิจในการรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร ซึ่งภารกิจดังกล่าวรวมถึงหน้าที่ในการควบคุมอาวุธ สารเคมีบางชนิด และอุปกรณ์บางชนิดที่อาจนำไปใช้ในการปฏิบัติการทางทหารได้ โดยร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รับผิดชอบ เช่น กระทรวงอุตสาหกรรมที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมสารเคมีที่ใช้ในทางเกษตร เป็นต้น
2. ปัจจุบันอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงได้มีการพัฒนาในรูปแบบที่แยบยลมากขึ้น เนื่องจากการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งสารเคมีบางชนิดนำมาใช้ในการผลิตอาวุธ ทำลายล้างสูง ถ้าหากไม่มีการควบคุมในการผลิต นำเข้า หรือการสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร อาจจะมีการนำสารเคมีหรืออุปกรณ์ทางทหารไปใช้ในการก่อการร้ายหรือใช้ในการก่อวินาศกรรมได้ ประกอบกับประเทศไทยมีพันธกรณีในการปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ 1540 ว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ด้วยเหตุนี้ สมควรต้องปรับปรุงประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 เพื่อกำหนดให้มีการควบคุมอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง เป็นยุทธภัณฑ์ที่ต้องมีการควบคุม จึงได้เสนอร่างประกาศกระทรวงกลาโหมดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างประกาศกระทรวงกลาโหมกำหนดยุทธภัณฑ์ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 มีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงกลาโหมกำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 ลงวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2541 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2547 และ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2548
2. กำหนดให้อาวุธและเครื่องยิง ทิ้ง หรือปล่อย กระสุน วัตถุระเบิด ส่วนประกอบ และอุปกรณ์ เป็นยุทธภัณฑ์ เช่น อาวุธปืนประเภทต่าง ๆ อาวุธปืนใหญ่ อาวุธปราบเรือดำน้ำ อาวุธนิวเคลียร์ เครื่องยิงจรวด เครื่องยิงลูกระเบิด จรวด ตอร์ปิโด ลูกระเบิด ทุ่นระเบิด เป็นต้น ยกเว้นอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนอาจออกใบอนุญาตให้ได้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 (ร่างข้อ 1.1 และข้อ 1.2)
3. กำหนดให้ยานพาหนะทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ ที่ใช้ในกิจการทหาร และเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนำไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้ เป็นยุทธภัณฑ์ เช่น ยานพาหนะรบ ยานพาหนะช่วยรบ รวมถึงยานที่มีการดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ทางทหาร เรือรบ เรือช่วยรบ ยกเว้นเรือที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ อากาศยานรบ อากาศยานช่วยรบ รวมถึง UAV, RPVs เครื่องมือสื่อสาร หน้ากากป้องกันต่าง ๆ เป็นต้น (ร่างข้อ 1.3)
4. กำหนดให้สารเคมีที่ใช้ในการสงครามเคมี สารเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมของวัตถุระเบิด และวัตถุระเบิดบางประเภท เป็นยุทธภัณฑ์ (ร่างข้อ 2 — ร่างข้อ 4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 สิงหาคม 2550--จบ--