คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เสนอความคืบหน้ากรอบยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทย ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
คณะกรรมการประสานงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีได้รับแจ้งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า สลค. ได้มีหนังสือขอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแจ้งแผนการดำเนินงานตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 มาให้ทราบ โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการอาหารแห่งชาติและสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติได้มีหนังสือรายงานความคืบหน้าสรุปได้ว่า ได้มีการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อขอทราบขั้นตอนการดำเนินงานและแนวทางในการผนวกกรอบยุทธศาสตร์ฯ เข้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย แล้วและในส่วนของการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ ได้จัดประชุมคณะกรรมการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การจัดการด้านอาหารของประเทศไทยเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2554 ซึ่งที่ประชุมได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. ควรเร่งรัดการดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กรอบยุทธศาสตร์ฯ เพื่อสร้างความเข้าใจ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและระดมความเห็นต่อการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
2. ควรคัดเลือกดำเนินการประเด็นที่มีความสำคัญก่อน
3. ควรตั้งคณะกรรมการหรืออนุกรรมการภายใต้บริบทของพระราชบัญญัติคณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติ เพื่อบริหารจัดการการขับเคลื่อนประเด็นยุทธศาสตร์ที่เลือกดำเนินการ
4. เนื่องจากกรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นแผนชี้นำ จึงควรกำหนดตัวชี้วัด (KPI) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติหรือพิจารณาเชื่อมโยงกับกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้วได้อย่างชัดเจน และสามารถติดตามผลการดำเนินงานได้ซึ่งฝ่ายเลขานุการจะหารือกับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในแต่ละยุทธศาสตร์ ต่อไป
5. ควรพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำหรับการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานที่เชื่อมโยงกับกรอบยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว
อนึ่ง แม้กรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะยังมิได้ผนวกเข้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แต่มีการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางส่วน ซึ่งสามารถรายงานความคืบหน้าต่อคณะกรรมการอาหารแห่งชาติได้ เช่น ยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านอาหารที่รับผิดชอบโดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการบูรณาการงานวิจัยที่รับผิดชอบโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติเพื่อพิจารณาแนวทางในการขับเคลื่อนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งคณะกรรมการฯ จะได้รายงานให้ทราบ ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มกราคม 2554--จบ--