ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย — อุซเบกิสถาน ครั้งที่ 1

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 26, 2011 16:49 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีไทย — อุซเบกิสถาน ครั้งที่ 1 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอและมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม) ดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าว เพื่อให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม โดย กต.จะติดตามความคืบหน้าในด้านการปฏิบัติตามผลการประชุมฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกเรื่อง

สาระสำคัญของเรื่อง

กต.รายงานว่าการประชุมฯ ครั้งนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเนื่องจากได้มีการเจรจาหารือและ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่สนใจร่วมกันทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีอย่างกว้างขวางและตรงไปตรงมา แต่ละฝ่ายรับจะร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมถึงความสำเร็จในการหารือกับผู้แทนระดับสูงของรัฐบาลอุซเบกิสถานให้สนับสนุนบริษัท ปตท สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ซึ่งสนใจที่จะเข้าไปลงทุนทำการสำรวจพัฒนาและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอุซเบกิสถาน

สำหรับความร่วมมือด้านอื่นๆ ทั้งสองฝ่ายมีความกระตือรื้อร้นที่จะผลักดันความร่วมมือที่มีอยู่แล้วให้พัฒนาเพิ่มมากขึ้น และพยายามหาแนวทางความร่วมมือสาขาใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ การจัดประชุมฯ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้แทนหน่วยงานรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายได้พบปะกันโดยตรง ทำให้สามารถประสานงานกันได้สะดวกยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามความร่วมมือในแต่ละด้านนั้นมีระดับของศักยภาพที่แตกต่างกัน เช่น ความร่วมมือทางด้านพาณิชย์เภสัชกรรม และการเกษตร มีศักยภาพสูงและสามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้ ในขณะที่ความร่วมมือด้านการศึกษาอาจต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้ระหว่างกันเพิ่มขึ้น

มีหน่วยงานภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย คือ บริษัท ปตท สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอุซเบกิสถานในรอบปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่าภาคเอกชนมีศักยภาพในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เป็นที่ประจักษ์จากความพยายามของภาคเอกชนในการมีส่วนร่วมจัดการประชุม Thailand — Uzbekistan Business Forum ครั้งที่ 1 ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 และการจัดตั้งสมาคมธุรกิจไทย — สาธารณรัฐอุซเบกิสถานในโอกาสเดียวกัน ดังนั้น ภาครัฐควรส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนาความสัมพันธ์กับอุซเบกิสถาน โดยสำนักงานผู้แทนการค้าไทยอาจพิจารณานำคณะนักธุรกิจไทยไปเยือนอุซเบกิสถานด้วย

กต.พิจารณาเห็นว่า การประชุมฯ ในครั้งนี้ได้ช่วยให้ไทยและอุซเบกิสถานร่วมกันทบทวนความสัมพันธ์ที่ผ่านมา และกำหนดแนวทางความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในอนาคตในด้านต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น และโดยที่ผลการประชุมฯ ครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุมดังกล่าวต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มกราคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ