คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สรุปได้ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเป็นประจำทุกเดือน โดยสอบถามประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีครัวเรือนตกเป็นตัวอย่าง 26,520 ครัวเรือนต่อเดือน สำหรับในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงาน จำนวนผู้ว่างงานลดลง 3 พันคน (จาก 3.92 แสนคน เป็น 3.89 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมา (ตุลาคม พ.ศ. 2553) จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 3.4 หมื่นคน (จาก 3.55 แสนคน เป็น 3.89 แสนคน) สำหรับสาระสำคัญการสำรวจสรุปได้ ดังนี้
1. ผู้อยู่ในกำลังแรงงาน
ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 38.71 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.18 ล้านคน ผู้ว่างงาน 3.89 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 1.40 แสนคน ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 จำนวน 9 หมื่นคน (จาก 38.80 ล้านคน เป็น 38.71 ล้านคน)
2. ผู้มีงานทำ
ผู้มีงานทำ 38.18 ล้านคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 จำนวน 1.5 แสนคน (จาก 38.33 ล้านคน เป็น 38.18 ล้านคน) หรือลดลงร้อยละ 3.9 ซึ่งมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้นและลดลงในสาขาต่างๆ ดังนี้
2.1 ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผู้ทำงานในสาขาการบริหารราชการแผ่นดินฯ เพิ่มขึ้น 2.7 แสนคน (จาก 1.29 ล้านคน เป็น 1.56 ล้านคน) สาขาการขายส่งและขายปลีกฯ 2.0 แสนคน (จาก 5.90 ล้านคน เป็น 6.10 ล้านคน) สาขาการศึกษา 8 หมื่นคน (จาก 1.10 ล้านคน เป็น 1.18 ล้านคน) ตามลำดับ
2.2 ผู้ทำงานลดลง ได้แก่ สาขาการโรงแรมและภัตตาคาร 4.3 แสนคน (จาก 2.90 ล้านคน เป็น 2.47 ล้านคน) สาขาการบริการชุมชนฯ 1 แสนคน (จาก 0.87 ล้านคน เป็น 0.77 ล้านคน) สาขาการก่อสร้าง 1 แสนคน (จาก 2.16 ล้านคน เป็น 2.06 ล้านคน) สาขาการผลิต 9 หมื่นคน (จาก 5.47 ล้านคน เป็น 5.38 ล้านคน) ที่เหลือกระจายอยู่ในสาขาอื่นๆ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมา จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 2.16 แสนคน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในภาคเกษตรกรรม 8.21 แสนคน ส่วนนอกภาคเกษตรกรรมลดลง 6.05 แสนคน
3. ผู้ว่างงาน
3.1 ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 3.89 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงานรวม (ลดลง 3 พันคน แต่อัตราการว่างงานไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 9.0 หมื่นคน และเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.99 แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานจากภาคการบริการและการค้า 1.0 แสนคน ภาคการผลิต 9.0 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 1.09 แสนคน
3.2 ผู้ว่างงานเป็นผู้ที่จบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากที่สุด จำนวน 1.14 แสนคน รองลงมา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 9.2 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 7.4 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 5.6 หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 5.3 หมื่นคน ตามลำดับ
3.3 ผู้ว่างงานอยู่ในภาคใต้มากที่สุด 1.26 แสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.10 แสนคน ภาคกลาง 8.5 หมื่นคน ภาคเหนือ 5.3 หมื่นคน และกรุงเทพมหานคร 1.5 หมื่นคน หากคิดเป็นอัตราการว่างงาน ภาคใต้เป็นภาค ที่มีอัตราการว่างงานสูงสุด คือ ร้อยละ 2.4 ส่วนภาคที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดเป็น กรุงเทพมหานครร้อยละ 0.4
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มกราคม 2554--จบ--