คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย ตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ครั้งที่ 2/2550 วันที่ 30 เมษายน 2550 และให้หน่วยงาน AFTA ของไทยเป็นผู้ติดตามผลการนำเข้าหลังจากที่ไทยได้ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ AFTA แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาด้วย
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. กนศ. ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 เห็นชอบการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่สินค้ายานยนต์ชนิด Completely Built — Up (CBU) จากมาเลเซียภายใต้ AFTA โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการพิจารณาถ้อยคำที่จะแจ้งมาเลเซียและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป รวมทั้งเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิด ซึ่งต่อมาได้มีการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยที่ประชุมได้มีมติให้กระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงาน AFTA ของไทย เป็นผู้นำมติของที่ประชุม กนศ. ดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะแจ้งกรมศุลกากรให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ AFTA แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย พร้อมทั้งแจ้งมาเลเซียทราบต่อไป
2. กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในกรณีของสินค้ายานยนต์ มาเลเซียได้ดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้ AFTA ครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มาเลเซียได้ลดภาษีสินค้ายานยนต์ทุกรายการลงเหลือร้อยละ 0 — 5 ส่วนการมีใบอนุญาตนำเข้า (APs) เป็นมาตรการที่ใช้สำหรับติดตามและเก็บข้อมูลการนำเข้าเท่านั้น และไม่ได้เป็นการจำกัดปริมาณการนำเข้าตามที่หลายฝ่ายกังวล กระทรวงการคลังจึงเห็นด้วยกับมติ กนศ. ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่สินค้ายานยนต์ CBUs จากมาเลเซียภายใต้ AFTA ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มาเลเซียปฏิบัติตามพันธกรณีครบถ้วน อย่างไรก็ดี หากในภายหลังมีหลักฐานชัดเจนว่า APs ขัดต่อพันธกรณีใด ไทยสามารถดำเนินการตามกลไกของพันธกรณีนั้น ๆ ได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มิถุนายน 2550--จบ--
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. กนศ. ได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2550 เห็นชอบการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่สินค้ายานยนต์ชนิด Completely Built — Up (CBU) จากมาเลเซียภายใต้ AFTA โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการพิจารณาถ้อยคำที่จะแจ้งมาเลเซียและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป รวมทั้งเห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิด ซึ่งต่อมาได้มีการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยที่ประชุมได้มีมติให้กระทรวงการคลังในฐานะหน่วยงาน AFTA ของไทย เป็นผู้นำมติของที่ประชุม กนศ. ดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อที่จะแจ้งกรมศุลกากรให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้ AFTA แก่สินค้ายานยนต์มาเลเซีย พร้อมทั้งแจ้งมาเลเซียทราบต่อไป
2. กระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ในกรณีของสินค้ายานยนต์ มาเลเซียได้ดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้ AFTA ครบถ้วนแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มาเลเซียได้ลดภาษีสินค้ายานยนต์ทุกรายการลงเหลือร้อยละ 0 — 5 ส่วนการมีใบอนุญาตนำเข้า (APs) เป็นมาตรการที่ใช้สำหรับติดตามและเก็บข้อมูลการนำเข้าเท่านั้น และไม่ได้เป็นการจำกัดปริมาณการนำเข้าตามที่หลายฝ่ายกังวล กระทรวงการคลังจึงเห็นด้วยกับมติ กนศ. ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่สินค้ายานยนต์ CBUs จากมาเลเซียภายใต้ AFTA ได้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นวันที่มาเลเซียปฏิบัติตามพันธกรณีครบถ้วน อย่างไรก็ดี หากในภายหลังมีหลักฐานชัดเจนว่า APs ขัดต่อพันธกรณีใด ไทยสามารถดำเนินการตามกลไกของพันธกรณีนั้น ๆ ได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 มิถุนายน 2550--จบ--