แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
กระทรวงสาธารณสุข
สุขภัณฑ์กะรัต
โรงแรมคอนราด
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (ฝ่ายสาธารณสุขฯ) เดิม และคณะเจรจาข้อตกลงและการประเมินการพัฒนากฎหมายของส่วนราชการ คณะที่ 7 ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อกำหนดให้ศาสตร์การแพทย์แผนจีนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการอนุญาตให้บุคคลทำการประกอบโรคศิลปะได้มีการกำหนดเป็นสาขาแห่งการประกอบโรคศิลปะ เพื่อจะได้กำกับดูแลการประกอบโรคศิลปะโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีนให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการบำบัดรักษาผู้ป่วย จึงเห็นควรยืนยันให้นำร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างมาตรา 2)
2. กำหนดคำนิยาม “การแพทย์แผนจีน” (ร่างมาตรา 3)
3. ให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 5 (5) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 4)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนประกอบด้วยกรรมการวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน และกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 5)
5. กำหนดคุณสมบัติผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 11)
6. ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้มีการรับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน มิให้นำมาตรา 5 (4) กรณีกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งมาใช้บังคับจนกว่าจะได้มีการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในสาขาดังกล่าวแล้ว (ร่างมาตรา 12)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อกำหนดให้ศาสตร์การแพทย์แผนจีนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีการอนุญาตให้บุคคลทำการประกอบโรคศิลปะได้มีการกำหนดเป็นสาขาแห่งการประกอบโรคศิลปะ เพื่อจะได้กำกับดูแลการประกอบโรคศิลปะโดยศาสตร์การแพทย์แผนจีนให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการบำบัดรักษาผู้ป่วย จึงเห็นควรยืนยันให้นำร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างมาตรา 2)
2. กำหนดคำนิยาม “การแพทย์แผนจีน” (ร่างมาตรา 3)
3. ให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 5 (5) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 4)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนประกอบด้วยกรรมการวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน และกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 5)
5. กำหนดคุณสมบัติผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 11)
6. ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้มีการรับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน มิให้นำมาตรา 5 (4) กรณีกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งมาใช้บังคับจนกว่าจะได้มีการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในสาขาดังกล่าวแล้ว (ร่างมาตรา 12)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤษภาคม 2550--จบ--