รายงานผลการหารือและขอรับความเห็นชอบเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 2, 2011 15:02 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง รายงานผลการหารือและขอรับความเห็นชอบเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณ

สำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน

คณะรัฐมนตรีรับทราบและอนุมัติตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) เสนอดังนี้

1. รับทราบมติที่ประชุมในการพิจารณาเรื่องขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน

2. อนุมัติให้ ตช. แก้ไขระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. 2553 ให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2553 โดยใช้งบประมาณในส่วนของงบบุคลากรจากอัตราว่างที่มีเงินของ ตช. ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554

3. ให้ ตช. ไปดำเนินการแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ฯ ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 และขอรับความเห็นชอบไปยังกระทรวงการคลัง (กค.) เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของเรื่อง

ตช. รายงานว่า

1. ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แจ้งว่านายกรัฐมนตรีมีคำสั่งมอบหมายให้ ตช. รับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง (กค.) สำนักงบประมาณ (สงป.) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (สคก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนวงเงินงบประมาณสำหรับเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวนแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

2. ตช. ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานดังกล่าวข้างต้นในวันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2554 ณ กค. ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

2.1 เหตุผลและความจำเป็นในการขอแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวน พ.ศ. 2553 เพื่อให้พนักงานสอบสวนได้รับเงินเพิ่มฯ ตามอัตราใหม่ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2554 เนื่องจากปัจจุบันรัฐบาลมีนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตช. จึงได้มีการออกแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2554 เพื่อรองรับการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล จึงส่งผลให้พนักงานสอบสวนต้องพัฒนารูปแบบของการทำสำนวนการสอบสวนเพื่อให้สามารถขยายผลไปยังตัวการสำคัญ ประกอบกับคดีด้านยาเสพติดเป็นคดีที่มีความร้ายแรงและกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่มักเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลทำให้สำนวนคดีมีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น พนักงานสอบสวนจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหนื่อยยาก ตรากตรำ ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานสอบสวน อันจะเป็นการรักษาบุคลากรให้ดำรงอยู่ในสายงาน สอบสวน จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ฯ ให้มีผลย้อนหลังไปวันที่ 1 ธันวาคม 2553

2.2 หากแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ฯ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป ทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ตช. จะต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นในการเบิกจ่ายเงินเพิ่มเป็นกรณีพิเศษสำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวนจำนวนประมาณ 397.77 ล้านบาท และ ตช. ได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า มีงบประมาณเหลือจ่ายในงบบุคลากรจากอัตราว่าง ซึ่งสามารถนำมาใช้รองรับการดำเนินการดังกล่าวได้

2.3 ในการแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ฯ ให้มีผลย้อนหลังไปวันที่ 1 ธันวาคม 2553 สามารถกระทำได้หรือไม่ และจะมีขั้นตอนในการดำเนินการเช่นใดนั้น ผู้แทนจาก สคก. มีความเห็นว่าสามารถกระทำได้ เนื่องจากเป็นกรณีที่ ตช. จะดำเนินการแก้ไขระเบียบ ก.ตร. ฯ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดยต้องขอรับความเห็นชอบไปยัง กค. เพื่อให้ระเบียบ ก.ตร. ฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2553 เป็นต้นไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ