เรื่อง รายงานผลการตรวจเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยสู้รบตามพื้นที่แนวชายแดนไทย — กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการตรวจเยี่ยมราษฎรผู้ประสบภัยสู้รบตามพื้นที่แนวชายแดนไทย — กัมพูชา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสั่งการและข้อเสนอไปพิจารณาหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน ตามที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอ
ข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายองอาจ คล้ามไพบูลย์) พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 13 (นายอำนวย โชติสกุล) และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมราษฎรและตรวจดูสภาพความเสียหายที่บ้านภูมิซรอล โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ตำบลเสาธงชัย และบ้านหนองอุดมตำบลรุง อำเภอกันทรลักษ์ รวมทั้งประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อำเภอกันทรลักษ์ สรุปได้ดังนี้
1. การตรวจเยี่ยมสภาพความเสียหาย
1) บ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ มีบ้านที่ได้รับความเสียหาย ทั้งหลังซ่อมแซมไม่ได้จำนวน 7 หลัง ได้รับรายงานว่า สถานศึกษาในจังหวัดศรีสะเกษจะดำเนินการสร้างให้ ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีพศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ วิทยาลัยสารพัดช่างศรีสะเกษ วิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ และวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ โดยใช้งบประมาณจำนวน 1,400,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับจากการบริจาค
สิ่งที่ต้องการขอรับการสนับสนุน ได้แก่ เครื่องจักรกลหนักในการรื้อถอนปรับพื้นที่ก่อสร้าง และอาหารสำหรับช่างก่อสร้างบ้านระยะเวลา 1 เดือน 7 หลัง งบประมาณ 175,000 บาท
2) โรงเรียนภูมิชรอล ตรวจดูสภาพความเสียหายอาคารเรียน 3 ชั้น และอาคารเรียนชั่วคราว ซึ่งทางโรงเรียนรายงานให้ทราบว่ามีความต้องการเร่งด่วนในเรื่องต่างๆ ซึ่งได้รายงานต่อกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ดังนี้
2.1 งบประมาณในการซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย งบประมาณจำนวน 3,200,000 บาท
2.2 งบประมาณในการก่อสร้างอาคารเรียนถาวรทดแทนอาคารเรียนชั่วคราวที่ได้รับความเสียและไม่คุ้มที่จะซ่อมแซม งบประมาณจำนวน 21,247,000 บาท
2.3 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน 40 ชุด
2.4 สนามกีฬาฟุตบอล
2. การพบปะเยี่ยมเยียนและมอบสิ่งของราษฎรผู้ประสบภัย
พบปะเยี่ยมเยียนและมอบสิ่งของแก่ผู้ประสบภัยที่ศาลาประชาคมบ้านภูซรอล หมู่ที่ 2 ตำบลเสาธงชัย และศาลาประชาคมบ้านหนองอุดม ตำบลรุง อำเภอกันทรลักษ์ โดย นายก อบต. เสาธงชัย ขอให้ช่วยดูแลงบเงินอุดหนุนที่เพิ่มเติมให้กับ อบต.เสาธงชัย
3. ผลการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและข้อสั่งการ
ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้มีข้อสั่งการและมอบนโยบายแก่จังหวัดศรีสะเกษ ดังนี้
1) เรื่องการดูแลผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ควรต้องเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพราะผู้สูงอายุจะมีอยู่ 2ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นยอมที่จะอพยพออกมาจากพื้นที่ และส่วนที่สอง ไม่ยอมอพยพออกมาจากพื้นที่หรือไม่สามารถออกมาจากพื้นที่ได้เพราะการเจ็บป่วยจำเป็นต้องมีผู้ทำหน้าที่ดูแลในส่วนนี้
2) เรื่องเด็ก ขอให้กระทรวงสาธารณสุขช่วยดูว่านมสำหรับเด็กควรเป็นประเภทใดและควรให้ได้รับทั่วถึงทุกคน
3) เรื่องหลุมหลบภัย/บังเกอร์ สรุปได้ว่า ทางราชการควรสร้างหลุมหลบภัย ให้กับราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่
4) เรื่องการสำรวจความเสียหายพืชผลทางเกษตร ได้ฝากให้จังหวัดเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายของราษฎรด้านพืชผลทางการเกษตรเพื่อให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็ว
5) เรื่องการจัดทำแผนเตรียมความพร้อม ได้ฝากให้จังหวัดได้เตรียมความพร้อมหากมีเหตุเกิดขึ้นจะได้ไม่เกิดปัญหา
4. ข้อเสนอที่ต้องการให้ทางราชการช่วยเหลือ
1) เกษตรกรที่ทำสวนยาง จังหวัดศรีสะเกษ ได้เสนอขอให้ช่วยเหลือเกษตรที่ทำสวนยางให้ได้รับความช่วยเหลือเหมือนกับผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดภาคใต้
2) การสร้างถนนที่เป็นเส้นทางในการอพยพ จังหวัดศรีสะเกษ ขอให้สนับสนุนงบประมาณในการสร้างถนนที่เป็นเส้นทางในการอพยพประชาชนเป็นกรณีพิเศษ
3) การแก้ไขหลักเกณฑ์การชดเชยบ้านที่ถูกไฟไหม้ให้กับผู้เสียชีวิต ตามหลักเกณฑ์ใช้มาตั้งแต่ปี 2546 บ้านที่ถูกไฟไหม้ได้หลังละ 30,000 บาท ควรจะแก้ไขให้ตามที่มีความเสียหายจริง และผู้เสียชีวิตที่เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ 50,000 บาท ควรให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้และควรใช้คำว่าทดแทนหรือชดเชยมิใช่เป็นการเยียวยา
4) เรื่องสาธารณูปโภค วิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ เป็นจุดอพยพที่มีผู้อพยพ จำนวน 4,000 คน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ จึงเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคให้ดีขึ้น
5) เรื่องคลองส่งน้ำ กำนันตำบลเสาธงชัย ได้เสนอปัญหาแหล่งน้ำไม่เพียงพอเนื่องจากที่ตำบลเสาธงชัยไม่มีคลองส่งน้ำ จึงอยากได้คลองส่งน้ำใช้ในการเกษตรในพื้นที่ตำบลเสาธงชัย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--