คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการต่ออายุสัญญาเงินกู้ วงเงิน 800 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ต่อไปนี้อีก 1 ปี โดยให้กระทรวงการคลัง (กค.) เป็นผู้ค้ำประกัน ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการเร่งปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ดำเนินการเพิ่มรายได้ในส่วนการขนส่งเชิงพาณิชย์ การขนส่งสินค้า และการบริหารสินทรัพย์ต่าง ๆ โดยเฉพาะการบริหารจัดการที่ดินเพื่อการหาประโยชน์ด้านพาณิชย์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการควบคุมและลดค่าใช้จ่ายลง ตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการตามแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2553 — 2557 และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานไปพิจารณาดำเนินการโดยด่วนต่อไปด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
คค.รายงานว่าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2553 รฟท. ได้ต่ออายุสัญญาเงินกู้วงเงิน 800 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยเงินกู้โดยตั๋วสัญญาใช้เงิน 500 ล้านบาท และเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีวงเงิน 300 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งวงเงินกู้ดังกล่าวจะครบกำหนดอายุสัญญาในวันที่ 29 มีนาคม 2554 โดย คค. และ รฟท. ได้ดำเนินการตามความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้
1. แผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของ รฟท. ระยะเร่งด่วน พ.ศ. 2553 — 2557 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 (ตามข้อ 4.5) โดยขณะนี้ คค. จะพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำเนินการกำกับดูแล เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานต่อไป
2. รฟท. ได้เริ่มใช้การบริหารจัดการในลักษณะหน่วยธุรกิจตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 ส่วนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสำหรับการวิเคราะห์และกำหนดกรอบอัตรากำลังตามโครงสร้างองค์กรใหม่ซึ่งสถาบันที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในส่วนราชการได้ส่งรายงานฉบับสมบูรณ์เสนอ รฟท. พิจารณาแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554--จบ--