คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 5 ได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเสร็จแล้ว มีการแก้ไขในสาระสำคัญดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
1.1 ได้กำหนดให้ชัดเจนว่า “หอการค้า” หมายความว่า สถาบันที่บุคคลหลายคนจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้า การบริการ การประกอบวิชาชีพอิสระ ... โดยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องกำหนดบทนิยามคำว่า “การบริการ” และ “การประกอบวิชาชีพอิสระ” ไว้ เนื่องจากคำว่าการบริการเป็นความหมายทั่วไปเช่นเดียวกับคำว่าการค้าหรือการเกษตรที่ไม่ได้กำหนดบทนิยามไว้ และคำว่าวิชาชีพอิสระก็มีใช้อยู่ในมาตรา 193/34 (17) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.2 ตัดบทบัญญัติที่กำหนดให้ผู้ที่บริจาคเงินให้แก่หอการค้าสามารถนำเงินที่บริจาคไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่กรมสรรพากรประกาศกำหนดออก เนื่องจากเห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ในการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรควรจะนำไปกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรเพื่อให้ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีระบบ และเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ที่กำหนดไม่ให้มีบทบัญญัติกำหนดยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากรในกฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายภาษีอากร
2. ร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
โดยที่หลักการของร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเหมือนกับร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จึงได้แก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และได้เพิ่มเติมหลักการอีกสองหลักการ เพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คือ
2.1 ยกเลิกบทบัญญัติที่กำหนดให้สมาคมการค้าที่มีสมาชิกซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเกินกึ่งจำนวนของสมาชิกทั้งหมดต้องจัดตั้งและดำรงอยู่ได้เฉพาะในกรุงเทพมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดตั้งหอการค้าต่างประเทศที่กำหนดให้สามารถจัดตั้งได้ทั่วราชอาณาจักร
2.2 ได้กำหนดให้สมาคมการค้าสามารถให้เงินหรือให้กู้ยืมแก่พนักงานของสมาคมการค้าเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงานของสมาคมการค้าได้เช่นเดียวกับหอการค้า
กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับแล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. 2509 ดังต่อไปนี้
1. ให้หอการค้าเป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการบริการและประกอบวิชาชีพอิสระด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “หอการค้า” “รัฐวิสาหกิจ” และ “สหกรณ์” ในมาตรา 4 และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28 (1) และ (2))
2. กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนกลางหอการค้าหรือนายทะเบียนหอการค้าประจำจังหวัดได้ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7)
3. ยกเลิกคุณสมบัติการเป็นผู้มีฐานะดีของผู้เริ่มก่อการจัดตั้งและกรรมการของหอการค้า (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 37 วรรคสอง)
4. ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้งและการเข้าเป็นสมาชิกของหอการค้าให้เหมาะสมยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 มาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 22 และมาตรา 23)
5. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 24 (4))
6. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของหอการค้าให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 25 มาตรา 29 (1) (3) และ (9) และมาตรา 43 (4) และเพิ่มมาตรา 26 วรรคสอง)
7. กำหนดให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับแทนนายทะเบียน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 42)
8. กำหนดให้ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวสามารถเปรียบเทียบได้ (เพิ่มมาตรา 60/1)
ร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 ดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนกลางสมาคมการค้า หรือนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัดได้ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7)
2. ยกเลิกคุณสมบัติการเป็นผู้มีฐานะดีของผู้เริ่มก่อการจัดตั้งและกรรมการของสมาคมการค้า (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 30 วรรคสอง)
3. ยกเลิกหลักเกณฑ์ในการกำหนดให้สมาคมการค้าที่มีสมาชิกซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเกินกึ่งจำนวนของสมาชิกทั้งหมดต้องจัดตั้งและดำรงอยู่ได้เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร (ยกเลิกมาตรา 14)
4. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของสมาคมการค้าให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 22 (1) และ (3))
5. กำหนดให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับแทนนายทะเบียน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 35)
6. กำหนดให้ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวสามารถเปรียบเทียบได้ (เพิ่มมาตรา 54/1)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแจ้งว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 5 ได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวเสร็จแล้ว มีการแก้ไขในสาระสำคัญดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
1.1 ได้กำหนดให้ชัดเจนว่า “หอการค้า” หมายความว่า สถาบันที่บุคคลหลายคนจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้า การบริการ การประกอบวิชาชีพอิสระ ... โดยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องกำหนดบทนิยามคำว่า “การบริการ” และ “การประกอบวิชาชีพอิสระ” ไว้ เนื่องจากคำว่าการบริการเป็นความหมายทั่วไปเช่นเดียวกับคำว่าการค้าหรือการเกษตรที่ไม่ได้กำหนดบทนิยามไว้ และคำว่าวิชาชีพอิสระก็มีใช้อยู่ในมาตรา 193/34 (17) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
1.2 ตัดบทบัญญัติที่กำหนดให้ผู้ที่บริจาคเงินให้แก่หอการค้าสามารถนำเงินที่บริจาคไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ตามจำนวนที่กรมสรรพากรประกาศกำหนดออก เนื่องจากเห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ในการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากรควรจะนำไปกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากรเพื่อให้ระบบกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีระบบ และเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการเสนอร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ที่กำหนดไม่ให้มีบทบัญญัติกำหนดยกเว้นภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากรในกฎหมายที่ไม่ใช่กฎหมายภาษีอากร
2. ร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
โดยที่หลักการของร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเหมือนกับร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จึงได้แก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน และได้เพิ่มเติมหลักการอีกสองหลักการ เพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... คือ
2.1 ยกเลิกบทบัญญัติที่กำหนดให้สมาคมการค้าที่มีสมาชิกซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเกินกึ่งจำนวนของสมาชิกทั้งหมดต้องจัดตั้งและดำรงอยู่ได้เฉพาะในกรุงเทพมหานครเพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดตั้งหอการค้าต่างประเทศที่กำหนดให้สามารถจัดตั้งได้ทั่วราชอาณาจักร
2.2 ได้กำหนดให้สมาคมการค้าสามารถให้เงินหรือให้กู้ยืมแก่พนักงานของสมาคมการค้าเพื่อเป็นสวัสดิการแก่พนักงานของสมาคมการค้าได้เช่นเดียวกับหอการค้า
กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับแล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ร่างพระราชบัญญัติหอการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. 2509 ดังต่อไปนี้
1. ให้หอการค้าเป็นสถาบันที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการบริการและประกอบวิชาชีพอิสระด้วย (แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “หอการค้า” “รัฐวิสาหกิจ” และ “สหกรณ์” ในมาตรา 4 และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 28 (1) และ (2))
2. กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนกลางหอการค้าหรือนายทะเบียนหอการค้าประจำจังหวัดได้ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7)
3. ยกเลิกคุณสมบัติการเป็นผู้มีฐานะดีของผู้เริ่มก่อการจัดตั้งและกรรมการของหอการค้า (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 37 วรรคสอง)
4. ปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดตั้งและการเข้าเป็นสมาชิกของหอการค้าให้เหมาะสมยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 มาตรา 20 มาตรา 21 มาตรา 22 และมาตรา 23)
5. ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยให้เหมาะสมยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 24 (4))
6. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของหอการค้าให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 25 มาตรา 29 (1) (3) และ (9) และมาตรา 43 (4) และเพิ่มมาตรา 26 วรรคสอง)
7. กำหนดให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับแทนนายทะเบียน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 42)
8. กำหนดให้ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวสามารถเปรียบเทียบได้ (เพิ่มมาตรา 60/1)
ร่างพระราชบัญญัติสมาคมการค้า (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ.2509 ดังต่อไปนี้
1. กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนกลางสมาคมการค้า หรือนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัดได้ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7)
2. ยกเลิกคุณสมบัติการเป็นผู้มีฐานะดีของผู้เริ่มก่อการจัดตั้งและกรรมการของสมาคมการค้า (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 30 วรรคสอง)
3. ยกเลิกหลักเกณฑ์ในการกำหนดให้สมาคมการค้าที่มีสมาชิกซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเกินกึ่งจำนวนของสมาชิกทั้งหมดต้องจัดตั้งและดำรงอยู่ได้เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร (ยกเลิกมาตรา 14)
4. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของสมาคมการค้าให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 22 (1) และ (3))
5. กำหนดให้ศาลเป็นผู้มีอำนาจเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับแทนนายทะเบียน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 35)
6. กำหนดให้ความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียวสามารถเปรียบเทียบได้ (เพิ่มมาตรา 54/1)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--