แผนการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 15, 2011 14:10 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืน ประกอบด้วย โครงการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืน และโครงการพัฒนาศูนย์ทดสอบยานยนต์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ บุคลากร ห้องทดสอบเพื่อการวิจัยและพัฒนาและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยสนับสนุนงบประมาณดำเนินแผนงาน/โครงการ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณไปประกอบการพิจารณา ดังนี้

1. แผนพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ความยั่งยืนควรมีการกำหนดยุทธศาสตร์ที่บูรณาการร่วมกับสถาบันการศึกษาภาคเอกชนที่มีศักยภาพ และกำหนดเป้าหมาย ตัวชี้วัดของแต่ละยุทธศาสตร์ให้เกิดความชัดเจน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความรับผิดชอบร่วมกันของหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งภาครัฐและเอกชน

2. เนื่องจากกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายที่เสนออยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างสูง จึงควรวิเคราะห์ความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ ความคุ้มค่าของการลงทุน ความเหมาะสมของระยะเวลา รายละเอียดของแผนการดำเนินงาน และหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ชัดเจนเพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน และอาจพิจารณาให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมโดยใช้การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPPs) ทั้งนี้ หากจำเป็นจะต้องใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินสมทบในกรณีดังกล่าว ขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

อก. รายงานว่า เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง มีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและความปลอดภัยตลอดเวลา โดยในปี พ.ศ. 2553 ไทยมีกำลังการผลิตรถยนต์กว่า 1.6 ล้านคันต่อปี และคาดว่าในปี พ.ศ. 2557 กำลังการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 3 ล้านคันต่อปี แต่อุปสรรคต่อการเจริญเติบโตที่สำคัญประการหนึ่งคือการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ ประกอบกับการที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกจะนำมาตรฐานความปลอดภัยของยุโรปมาใช้ร่วมกันในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลก และการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคต ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะความสามารถและผลิตภาพเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล นอกจากจะเป็นการสร้างทักษะ และองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาให้กับบุคลากรยานยนต์ และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs : Small and Medium sized Enterprises) แล้ว ยังช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพที่จะเข้าสู่ตลาดในประเทศ ตลอดจนสร้างความเชื่อถือให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศในตลาดสากล เพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมยานยนต์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 มีนาคม 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ