คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ในปัจจุบันมีการประกอบธุรกิจด้านที่พักในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการประกอบกิจการด้านที่พักในลักษณะโฮมสเตย์ หรือเกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการเสริมรายได้ของคนในท้องถิ่น และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นกิจการในครอบครัวและมีผลกำไรไม่มาก ดังนั้น หากไม่มีการออกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมแล้ว สถานที่พักเหล่านี้จะต้องเป็นโรงแรมตามบทนิยาม คำว่า “โรงแรม” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งต้องยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร หรือดัดแปลงอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจโรงแรม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยโรงแรม อันเป็นการเพิ่มต้นทุน และเพิ่มภาระในการปฏิบัติแก่ประชาชนที่ต้องการหารายได้เสริมจากการให้เช่าที่พักแก่นักท่องเที่ยว จึงเห็นควรกำหนดให้สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักรวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังรวมกันไม่เกิน 4 ห้อง และจำนวนผู้เข้าพักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 20 คน ไม่เป็นโรงแรมตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรมได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวง ฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สถานที่พัก ที่มีจำนวนห้องพักรวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังรวมกันไม่เกิน 4 ห้อง และจำนวนผู้เข้าพักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 20 คน ไม่เป็นโรงแรมตามความในพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า ในปัจจุบันมีการประกอบธุรกิจด้านที่พักในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการประกอบกิจการด้านที่พักในลักษณะโฮมสเตย์ หรือเกสต์เฮาส์ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นการเสริมรายได้ของคนในท้องถิ่น และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นกิจการในครอบครัวและมีผลกำไรไม่มาก ดังนั้น หากไม่มีการออกกฎกระทรวงกำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมแล้ว สถานที่พักเหล่านี้จะต้องเป็นโรงแรมตามบทนิยาม คำว่า “โรงแรม” ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ซึ่งต้องยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร หรือดัดแปลงอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจโรงแรม รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยโรงแรม อันเป็นการเพิ่มต้นทุน และเพิ่มภาระในการปฏิบัติแก่ประชาชนที่ต้องการหารายได้เสริมจากการให้เช่าที่พักแก่นักท่องเที่ยว จึงเห็นควรกำหนดให้สถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักรวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังรวมกันไม่เกิน 4 ห้อง และจำนวนผู้เข้าพักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 20 คน ไม่เป็นโรงแรมตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับธุรกิจโรงแรมได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวง ฯ ดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างกฎกระทรวงกำหนดสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สถานที่พัก ที่มีจำนวนห้องพักรวมกันทุกชั้นในอาคารหลังเดียวกันหรือหลายหลังรวมกันไม่เกิน 4 ห้อง และจำนวนผู้เข้าพักรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 20 คน ไม่เป็นโรงแรมตามความในพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 พฤษภาคม 2550--จบ--