เรื่อง การจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายไทยเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
กับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน
คณะรัฐมนตรีอนุมัติทั้ง 2 ข้อ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. อนุมัติในหลักการเกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายไทยเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน โดยให้ กต. สามารถปรับเปลี่ยนองค์ประกอบได้ตามที่เกี่ยวข้องกับสารัตถะของการประชุม
2 อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทย
สารระสำคัญของเรื่อง
กต. เสนอว่า
1. เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2536 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ลงนามความตกลงว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน จากนั้นฝ่ายไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถานได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ครั้งที่ 1 ณ กรุงอัสตานา สาธารณรัฐคาซัคสถาน ระหว่างวันที่ 21 — 23 ตุลาคม 2546 โดยนายประชา คุณะเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ในขณะนั้น) ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐคาซัคสถาน
2. ในการประชุมครั้งนั้น ฝ่ายไทยและฝ่ายสาธารณรัฐคาซัคสถานตกลงที่จะพัฒนาความร่วมมือด้านการค้า เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์และวิชาการ และการเกษตรระหว่างกันและเห็นพ้องให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งเวลาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้พยายามจัดให้มีการประชุมดังกล่าวมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถจัดขึ้นได้ เนื่องจากความไม่สะดวกของแต่ละฝ่าย อย่างไรก็ตาม ล่าสุดฝ่ายไทยและสาธารณรัฐคาซัคสถานเห็นพ้องให้มีการจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ครั้งที่ 2 โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในประเทศไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2554
3. การจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายไทยฯ เพื่อเป็นกลไกในการรวบรวมข้อมูล ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อประมวลเป็นท่าทีของไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ ในการส่งเสริมและขยายความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันบนผลประโยชน์ร่วมกันอย่างรอบด้าน
4. คณะกรรมาธิการร่วมฝ่ายไทยฯ ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทน เป็นประธานกรรมาธิการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 25 คน ร่วมเป็นกรรมาธิการ และมีหัวหน้าสำนักงานผู้แทนทางการค้าไทยหรือผู้แทน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน ประธานสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน รวม 5 คน เป็นที่ปรึกษา โดยมีหัวหน้ากลุ่มงานเอเชียกลาง กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา เป็นกรรมาธิการและเลขานุการ และมีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญ ดังนี้
4.1 กำหนดท่าทีและเป้าหมายของฝ่ายไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ
4.2 พิจารณาแนวทางและวิถีทางในการประสานความร่วมมือทวิภาคีที่มีประสิทธิภาพในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิชาการ สังคมและวัฒนธรรม โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกัน และผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
4.3 ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดทิศทาง แนวนโยบาย หรือข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐคาซัคสถานอย่างรอบด้าน และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งการดำเนินการต่างๆ อันเป็นผลต่อเนื่องจากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพื่อความร่วมมือทวิภาคีระหว่างประเทศทั้งสอง
ทั้งนี้ ในส่วนของที่ปรึกษา จำนวน 5 คน (ตามข้อ 4) เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้ว กต. จะแจ้งให้หน่วยงานดังกล่าวแต่งตั้งผู้แทนหน่วยงานและจะตรวจสอบคุณสมบัติให้มีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 มีนาคม 2554--จบ--