เรื่อง การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดชอบทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน
ค.ศ. 1992 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดชอบทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน ค.ศ. 1992 และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยให้ใช้เอกสารฉบับภาษาไทยเป็นหลักในการพิจารณา และเอกสารฉบับภาษาอังกฤษเป็นเอกสารประกอบเมื่อร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
กระทรวงคมนาคมเสนอว่า
1. องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ได้รับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดชอบทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน ค.ศ. 1992 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2535 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2539 กระทรวงคมนาคมโดยคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ได้พิจารณาว่าประเทศไทยควรเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว คณะกรรมการพิเศษเพื่อพิจารณาอนุสัญญาต่าง ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศได้มีมติเห็นชอบต่อการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา โดยเห็นว่าประโยชน์จากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ คือ เจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันไทยสามารถจำกัดความรับผิดชอบของตนทั้งในประเทศและในประเทศภาคีอนุสัญญาฯ ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันไทยไม่ถูกกีดกันในการทำการค้า บริการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศและไม่ถูกฟ้องล้มละลายในกรณีต้องถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในจำนวนเงินที่สูง ในขณะเดียวกันก็มีหลักประกันในการชดใช้ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและผู้ได้รับความเสียหายจากมลพิษน้ำมันรั่วไหลจากเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันในจำนวนที่ชัดเจนเพียงพอ
2. เนื่องจากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ดังกล่าว จะมีผลต่อการคุ้มครองผู้ใช้ประโยชน์จากทะเลทุกฝ่าย รวมถึงมีการวางมาตรการในการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายอนุวัติการ คือ ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... จึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มิถุนายน 2550--จบ--
ค.ศ. 1992 และร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
2. เห็นชอบการเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดชอบทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน ค.ศ. 1992 และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยให้ใช้เอกสารฉบับภาษาไทยเป็นหลักในการพิจารณา และเอกสารฉบับภาษาอังกฤษเป็นเอกสารประกอบเมื่อร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... ประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายแล้ว
กระทรวงคมนาคมเสนอว่า
1. องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ได้รับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความรับผิดชอบทางแพ่งสำหรับความเสียหายจากมลพิษของน้ำมัน ค.ศ. 1992 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2535 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2539 กระทรวงคมนาคมโดยคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อประสานงานกับองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ได้พิจารณาว่าประเทศไทยควรเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าว คณะกรรมการพิเศษเพื่อพิจารณาอนุสัญญาต่าง ๆ ของกระทรวงการต่างประเทศได้มีมติเห็นชอบต่อการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา โดยเห็นว่าประโยชน์จากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ คือ เจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันไทยสามารถจำกัดความรับผิดชอบของตนทั้งในประเทศและในประเทศภาคีอนุสัญญาฯ ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันไทยไม่ถูกกีดกันในการทำการค้า บริการขนส่งทางทะเลระหว่างประเทศและไม่ถูกฟ้องล้มละลายในกรณีต้องถูกฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหายในจำนวนเงินที่สูง ในขณะเดียวกันก็มีหลักประกันในการชดใช้ความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลและผู้ได้รับความเสียหายจากมลพิษน้ำมันรั่วไหลจากเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันในจำนวนที่ชัดเจนเพียงพอ
2. เนื่องจากการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ดังกล่าว จะมีผลต่อการคุ้มครองผู้ใช้ประโยชน์จากทะเลทุกฝ่าย รวมถึงมีการวางมาตรการในการชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายอนุวัติการ คือ ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางแพ่งเพื่อความเสียหายจากมลพิษน้ำมัน พ.ศ. .... จึงได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มิถุนายน 2550--จบ--