คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องลดอัตราภาษีสรรพสามิตเพื่อปรับปรุงอัตราภาษีสรรพสามิตที่จัดเก็บ ในประเภทที่ 01.05 น้ำมันดีเซลและน้ำมันอื่น ๆ ที่คล้ายกัน ในรายการที่ (2) และ (5) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2554 เป็นต้นไป
กระทรวงการคลังเสนอว่า กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานได้ร่วมกันเสนอมาตรการภาษีสรรพสามิตในการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน เพื่อป้องกันสภาวะเงินเฟ้อ บรรเทาผลกระทบต่อต้นทุนของภาคการขนส่ง ภาคการผลิต และเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน จึงจำเป็นต้องลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ 0.035 โดยน้ำหนัก จากอัตราภาษี 5.310 บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 จากอัตราภาษี 5.040 บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร โดยที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยกรมสรรพสามิตต้องดำเนินการทางกฎหมายปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล เพื่อให้กฎหมายสามารถมีผลบังคับใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อให้การป้องกันสภาวะเงินเฟ้อ การบรรเทาผลกระทบต่อต้นทุนของภาคการขนส่ง ภาคการผลิต และเพื่อลดค่าใช้จ่ายของประชาชน สามารถดำเนินการได้ทันกับวิกฤตการณ์พลังงานของประเทศ
สาระสำคัญ/ข้อเท็จจริง
เสนอให้มีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ 0.035 โดยน้ำหนักจากอัตราภาษี 5.310 บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร
2. ลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 จากอัตราภาษี 5.040 บาทต่อลิตร ลดลงเหลืออัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร
ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกินร้อยละ 0.035 โดยน้ำหนัก และน้ำมันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ลดลงภายในปีงบประมาณ 2554 จำนวน 45,516.90 ล้านบาท และปีงบประมาณ 2555 จำนวน 113,610 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 เมษายน 2554--จบ--