คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการการจัดทำโครงการพัฒนากระบวนทัศน์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ สำหรับงบประมาณดำเนินการให้ตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยให้รับข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) เป็นประธาน ไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้
1. โดยที่กำลังพลข้าราชการตำรวจชั้นประทวนในกลุ่มงานต่าง ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีจำนวนมากถึง 184,623 คน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการฝึกอบรมแค่ 37,717 คน จะสามารถปรับกระบวนทัศน์ในการทำงานของตำรวจได้หรือไม่ นอกจากนี้การกำหนดเนื้อหาในหลักสูตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลของโครงการ เช่น ยุทธวิธีตำรวจ : การฝึกยิงปืนระบบฉับพลัน จึงควรมีการประเมินผลว่าการฝึกอบรมครั้งนี้ส่งผลอย่างไร และควรกำหนดตัวชี้วัดอะไรบ้าง
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับโครงการนี้ จำนวน 45 ล้านบาทเศษ หลักสูตรและแผนการฝึกอบรมซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการโครงการเข้าด้วยกัน น่าจะปรับหลักสูตรให้ ความเป็นไปได้ที่จะใช้งบประมาณตามโครงการใหม่จะเป็นอย่างไร รวมทั้งจัดทำรายละเอียดหลักสูตรให้ชัดเจนตามขั้นตอน
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรมีการพัฒนากำลังคนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และจัดทำเป็นระบบ โดยมีหลักสูตรตลอด เพราะปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้ามาก ควรทำเป็นประจำ ไม่ควรทำเฉพาะกิจ สำหรับวิทยากรควรเปิดกว้างให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วม มีคณะกรรมการติดตามประเมินผล โดยขอให้นักวิชาการมาช่วยประเมินผล อาจมาจากกระทรวงยุติธรรมหรือสำนักงบประมาณ ในเบื้องต้นแม้จะทำมาโดยตลอด แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหม่ควรทำเป็นโครงการนำร่องก่อน โดยมีการทดสอบก่อนอบรม และหลังอบรม แล้วประเมินผลว่าเป็นอย่างไร เพื่อปรับแนวทางกระบวนการฝึกอบรมและหลักสูตรให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ควรประสานสำนักงบประมาณในการวางแผนระยะยาว โดยให้เน้นคุณภาพเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและเสริมสร้างการเป็นตำรวจที่ดีของประชาสังคม (Civil Society) ปลูกฝังจริยธรรมและหลักปรัชญาในการดำรงตนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้การปฏิบัติหน้าที่ตำรวจในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และคำนึงถึงหลักดุลยภาพระหว่างสิทธิเสรีภาพของบุคคลกับหลักการบังคับใช้กฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมบ้านเมือง และเพื่อให้เกิดจิตสำนึกในการบริการประชาชนในฐานะผู้ให้บริการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้วยสำนึกของผู้บริการที่ดี (Service Mind) โดยมีเป้าหมายพัฒนาบุคลากรกลุ่มเป้าหมายด้วยการฝึกอบรมตามลำดับความสำคัญของข้าราชการตำรวจชั้นประทวนกลุ่มงานที่ต้องสัมผัสกับประชาชนโดยตรง ได้แก่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงาน กลุ่มงานสายตรวจ จำนวน 14,583 คน กลุ่มงานสืบสวน จำนวน 12,161 คน และกลุ่มงานจราจร จำนวน 10,973 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 37,717 คน ใช้เวลารวม 16 สัปดาห์ รุ่นละ 240 คน จำนวน 160 รุ่น กำหนดฝึกอบรม พร้อมกันทั่วประเทศที่กองกำกับการโรงเรียนตำรวจนครบาล และกองกำกับการโรงเรียนตำรวจภูธร 1-9 รวม 10 แห่ง ใช้งบประมาณจำนวน 48,336,000 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มีนาคม 2548--จบ--
1. โดยที่กำลังพลข้าราชการตำรวจชั้นประทวนในกลุ่มงานต่าง ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีจำนวนมากถึง 184,623 คน แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการฝึกอบรมแค่ 37,717 คน จะสามารถปรับกระบวนทัศน์ในการทำงานของตำรวจได้หรือไม่ นอกจากนี้การกำหนดเนื้อหาในหลักสูตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลของโครงการ เช่น ยุทธวิธีตำรวจ : การฝึกยิงปืนระบบฉับพลัน จึงควรมีการประเมินผลว่าการฝึกอบรมครั้งนี้ส่งผลอย่างไร และควรกำหนดตัวชี้วัดอะไรบ้าง
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เคยได้รับงบประมาณเพื่อดำเนินการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกับโครงการนี้ จำนวน 45 ล้านบาทเศษ หลักสูตรและแผนการฝึกอบรมซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการโครงการเข้าด้วยกัน น่าจะปรับหลักสูตรให้ ความเป็นไปได้ที่จะใช้งบประมาณตามโครงการใหม่จะเป็นอย่างไร รวมทั้งจัดทำรายละเอียดหลักสูตรให้ชัดเจนตามขั้นตอน
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรมีการพัฒนากำลังคนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และจัดทำเป็นระบบ โดยมีหลักสูตรตลอด เพราะปัจจุบันวิทยาการก้าวหน้ามาก ควรทำเป็นประจำ ไม่ควรทำเฉพาะกิจ สำหรับวิทยากรควรเปิดกว้างให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วม มีคณะกรรมการติดตามประเมินผล โดยขอให้นักวิชาการมาช่วยประเมินผล อาจมาจากกระทรวงยุติธรรมหรือสำนักงบประมาณ ในเบื้องต้นแม้จะทำมาโดยตลอด แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหม่ควรทำเป็นโครงการนำร่องก่อน โดยมีการทดสอบก่อนอบรม และหลังอบรม แล้วประเมินผลว่าเป็นอย่างไร เพื่อปรับแนวทางกระบวนการฝึกอบรมและหลักสูตรให้เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ ควรประสานสำนักงบประมาณในการวางแผนระยะยาว โดยให้เน้นคุณภาพเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและเสริมสร้างการเป็นตำรวจที่ดีของประชาสังคม (Civil Society) ปลูกฝังจริยธรรมและหลักปรัชญาในการดำรงตนเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้การปฏิบัติหน้าที่ตำรวจในระบอบประชาธิปไตยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และคำนึงถึงหลักดุลยภาพระหว่างสิทธิเสรีภาพของบุคคลกับหลักการบังคับใช้กฎหมายในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมบ้านเมือง และเพื่อให้เกิดจิตสำนึกในการบริการประชาชนในฐานะผู้ให้บริการช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกด้วยสำนึกของผู้บริการที่ดี (Service Mind) โดยมีเป้าหมายพัฒนาบุคลากรกลุ่มเป้าหมายด้วยการฝึกอบรมตามลำดับความสำคัญของข้าราชการตำรวจชั้นประทวนกลุ่มงานที่ต้องสัมผัสกับประชาชนโดยตรง ได้แก่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงาน กลุ่มงานสายตรวจ จำนวน 14,583 คน กลุ่มงานสืบสวน จำนวน 12,161 คน และกลุ่มงานจราจร จำนวน 10,973 คน รวมทั้งสิ้น จำนวน 37,717 คน ใช้เวลารวม 16 สัปดาห์ รุ่นละ 240 คน จำนวน 160 รุ่น กำหนดฝึกอบรม พร้อมกันทั่วประเทศที่กองกำกับการโรงเรียนตำรวจนครบาล และกองกำกับการโรงเรียนตำรวจภูธร 1-9 รวม 10 แห่ง ใช้งบประมาณจำนวน 48,336,000 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 มีนาคม 2548--จบ--