คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประงานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอว่า โดยที่ได้มีประกาศสภาร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ และการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2550 ประกาศใช้บังคับตามมาตรา 29 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 แล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกี่ยวกับการจัดและควบคุมการออกเสียงประชามติ และในเรื่องความผิดและบทกำหนดโทษของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ดังนั้น เพื่อให้การจัดการออกเสียงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... นี้ ใช้บังคับเฉพาะกรณีการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 (ร่างมาตรา 3)
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยการมอบหมายของสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ดำเนินการจัดและควบคุมการออกเสียงประชามติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สภาร่างรัฐธรรมนูญกำหนด (ร่างมาตรา 4)
3. กำหนดให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด อนุกรรมการ กรรมการประจำหน่วยออกเสียง และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงบุคคล หรือคณะบุคคลที่สภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้ง เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา (ร่างมาตรา 5)
4. กำหนดลักษณะการกระทำที่ถือเป็นความผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติและกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ทั้งผู้ออกเสียงหรือเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการออกเสียง ตามลักษณะของความผิด (ร่างมาตรา 7 ถึงร่างมาตรา 13)
5. กำหนดให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 14)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2550--จบ--
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอว่า โดยที่ได้มีประกาศสภาร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ และการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2550 ประกาศใช้บังคับตามมาตรา 29 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 แล้ว แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งเกี่ยวกับการจัดและควบคุมการออกเสียงประชามติ และในเรื่องความผิดและบทกำหนดโทษของผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ ดังนั้น เพื่อให้การจัดการออกเสียงประชามติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. .... นี้ ใช้บังคับเฉพาะกรณีการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 (ร่างมาตรา 3)
2. กำหนดให้มีคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยการมอบหมายของสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นผู้ดำเนินการจัดและควบคุมการออกเสียงประชามติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่สภาร่างรัฐธรรมนูญกำหนด (ร่างมาตรา 4)
3. กำหนดให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด อนุกรรมการ กรรมการประจำหน่วยออกเสียง และเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ที่ได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงบุคคล หรือคณะบุคคลที่สภาร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้ง เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา (ร่างมาตรา 5)
4. กำหนดลักษณะการกระทำที่ถือเป็นความผิดเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติและกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ทั้งผู้ออกเสียงหรือเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการออกเสียง ตามลักษณะของความผิด (ร่างมาตรา 7 ถึงร่างมาตรา 13)
5. กำหนดให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ (ร่างมาตรา 14)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2550--จบ--