เรื่อง ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมในการรับเด็ก
เป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระบวนการให้คำปรึกษาเยียวยา
ก่อนเลิกรับบุตรบุญธรรม พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระบวนการให้คำปรึกษาเยียวยาก่อนเลิกรับบุตรบุญธรรม พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. ....
1.1 กำหนดหลักเกณฑ์การสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ร่างข้อ 2)
1.2 กำหนดหลักเกณฑ์การสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมของบุคคลผู้มีอำนาจให้ความยินยอมในการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ร่างข้อ 3)
1.3 กำหนดหลักเกณฑ์การสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมของเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม (ร่างข้อ 4)
1.4 กำหนดให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการประกาศกำหนดแบบการสอบคุณสมบัติและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสม (ร่างข้อ 5)
2. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระบวนการให้คำปรึกษาเยียวยาก่อนเลิกรับบุตรบุญธรรม พ.ศ. ....
2.1 กำหนดให้สอบถามผู้รับบุตรบุญธรรมเพื่อทราบข้อมูลปัญหาและมีการหารือร่วมกันในการดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาความสัมพันธ์ในเบื้องต้นก่อนเลิกรับบุตรบุญธรรม หากบุตรบุญธรรมนั้นยังเป็นเด็ก (ร่างข้อ 1)
2.2 กำหนดให้สืบเสาะข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพปัญหาการเลิกรับบุตรบุญธรรมของผู้รับบุตรบุญธรรมให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยให้มีข้อเท็จจริงและให้ดำเนินการตามที่กำหนด (ร่างข้อ 2)
2.3 กรณีจำเป็นต้องหารือร่วมกันในการวางแผนและดำเนินการให้คำปรึกษาเยียวยา ให้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น (ร่างข้อ 3)
2.4 กำหนดให้ออกหนังสือรับรองเพื่อประกอบการขอจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม หรือยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรา 1598/31 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยหนังสือรับรองมีอายุหกเดือนนับแต่วันที่ออกหนังสือ (ร่างข้อ 4)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 พฤษภาคม 2554--จบ--