คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ได้ปรับปรุงแก้ไขจากร่างที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอว่ากฎหมายสหกรณ์เป็นกฎหมายเพื่อการพัฒนา โดยการส่งเสริมและคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เป็นกลไกของรัฐในการแก้ไขเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการพึ่งตนเอง และรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นักสหกรณ์แห่งชาติฯ ร่วมแสดงความคิดเห็น และได้นำข้อคิดเห็นดังกล่าวมาปรับปรุงแก้ไขร่วมกับร่างพระราชบัญญัติที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเสนอในประเด็นต่าง ๆ แล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้มีคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ ประกอบด้วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีและผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผู้แทนสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศประเภทละหนึ่งคน ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรระดับประเทศหนึ่งคน เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินห้าคนเป็นกรรมการ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9)
2. ให้นายทะเบียนสหกรณ์มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าเป็นรองนายทะเบียนสหกรณ์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 15)
3. ให้สิทธิสหกรณ์ในการบังคับชำระหนี้จากค่าหุ้นในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษก่อนเจ้าหนี้สามัญรายอื่น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 42)
4. คุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง โดยให้หน่วยงาน ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้างหักเงินเดือนค่าจ้างของสมาชิกให้แก่สหกรณ์เป็นลำดับแรก ทั้งนี้ ตามหนังสือยินยอม (เพิ่มเติมมาตรา 42/1)
5. กำหนดให้มีการตั้งผู้รับประโยชน์ได้ตามกฎหมายสหกรณ์ โดยให้สหกรณ์สามารถจ่ายหรือโอนเงินค่าหุ้นหรือผลประโยชน์ของสมาชิกผู้ตายให้แก่ผู้รับประโยชน์ได้โดยความชอบตามกฎหมายสหกรณ์ไม่ล่าช้าดังเช่นการจัดการมรดก (เพิ่มเติมมาตรา 42/2)
6. เพิ่มอำนาจกระทำการของสหกรณ์ให้ดำเนินการได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของสวัสดิการ การสงเคราะห์ และการฌาปนกิจสงเคราะห์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 46)
7. ให้กรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง รักษาการในตำแหน่งกรรมการดำเนินการสหกรณ์ต่อไป เมื่อหมดวาระและยังไม่มีการเลือกตั้งแต่ไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบวัน (เพิ่มเติมมาตรา 50)
8. กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นหรือทำหน้าที่กรรมการหรือผู้จัดการเพิ่มเติมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 52)
9. กำหนดให้จัดสรรกำไรสุทธิประจำปีเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของกำไรสุทธิและเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยร้อยละห้าของกำไรสุทธิเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเก็บอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 60 วรรคหนึ่ง)
10. กำหนดสัดส่วนของกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยให้ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศประเภทละหนึ่งคนเป็นกรรมการโดยตำแหน่งและกรรมการอื่นซึ่งที่ประชุมใหญ่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเลือกตั้งจากผู้แทนสหกรณ์ ทั้งนี้ รวมกันแล้วไม่เกินสิบห้าคน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 วรรคแรก)
11. กำหนดให้อำนาจแก่ที่ประชุมใหญ่สามารถถอดถอนกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยออกจากตำแหน่งได้ (เพิ่มเติม (7) ของมาตรา 115)
12. กำหนดให้อำนาจแก่รัฐมนตรีเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อมีการร้องขอของสมาชิก (เพิ่มวรรคสี่ของมาตรา 116)
13. กำหนดให้อำนาจประธานกรรมการหรือคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (เพิ่มเติมมาตรา 117/1)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอว่ากฎหมายสหกรณ์เป็นกฎหมายเพื่อการพัฒนา โดยการส่งเสริมและคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เป็นกลไกของรัฐในการแก้ไขเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักการพึ่งตนเอง และรวมกลุ่มช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย นักสหกรณ์แห่งชาติฯ ร่วมแสดงความคิดเห็น และได้นำข้อคิดเห็นดังกล่าวมาปรับปรุงแก้ไขร่วมกับร่างพระราชบัญญัติที่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเสนอในประเด็นต่าง ๆ แล้ว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
ร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้มีคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ ประกอบด้วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีและผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผู้แทนสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศประเภทละหนึ่งคน ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรระดับประเทศหนึ่งคน เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งไม่เกินห้าคนเป็นกรรมการ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9)
2. ให้นายทะเบียนสหกรณ์มีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าเป็นรองนายทะเบียนสหกรณ์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 15)
3. ให้สิทธิสหกรณ์ในการบังคับชำระหนี้จากค่าหุ้นในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษก่อนเจ้าหนี้สามัญรายอื่น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 42)
4. คุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เกิดความเข้มแข็ง โดยให้หน่วยงาน ผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้างหักเงินเดือนค่าจ้างของสมาชิกให้แก่สหกรณ์เป็นลำดับแรก ทั้งนี้ ตามหนังสือยินยอม (เพิ่มเติมมาตรา 42/1)
5. กำหนดให้มีการตั้งผู้รับประโยชน์ได้ตามกฎหมายสหกรณ์ โดยให้สหกรณ์สามารถจ่ายหรือโอนเงินค่าหุ้นหรือผลประโยชน์ของสมาชิกผู้ตายให้แก่ผู้รับประโยชน์ได้โดยความชอบตามกฎหมายสหกรณ์ไม่ล่าช้าดังเช่นการจัดการมรดก (เพิ่มเติมมาตรา 42/2)
6. เพิ่มอำนาจกระทำการของสหกรณ์ให้ดำเนินการได้ครอบคลุมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของสวัสดิการ การสงเคราะห์ และการฌาปนกิจสงเคราะห์ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 46)
7. ให้กรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง รักษาการในตำแหน่งกรรมการดำเนินการสหกรณ์ต่อไป เมื่อหมดวาระและยังไม่มีการเลือกตั้งแต่ไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบวัน (เพิ่มเติมมาตรา 50)
8. กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นหรือทำหน้าที่กรรมการหรือผู้จัดการเพิ่มเติมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 52)
9. กำหนดให้จัดสรรกำไรสุทธิประจำปีเป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของกำไรสุทธิและเป็นค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยร้อยละห้าของกำไรสุทธิเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเก็บอัตราค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 60 วรรคหนึ่ง)
10. กำหนดสัดส่วนของกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยให้ประธานกรรมการดำเนินการชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศประเภทละหนึ่งคนเป็นกรรมการโดยตำแหน่งและกรรมการอื่นซึ่งที่ประชุมใหญ่ของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเลือกตั้งจากผู้แทนสหกรณ์ ทั้งนี้ รวมกันแล้วไม่เกินสิบห้าคน (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 วรรคแรก)
11. กำหนดให้อำนาจแก่ที่ประชุมใหญ่สามารถถอดถอนกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยออกจากตำแหน่งได้ (เพิ่มเติม (7) ของมาตรา 115)
12. กำหนดให้อำนาจแก่รัฐมนตรีเรียกประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อมีการร้องขอของสมาชิก (เพิ่มวรรคสี่ของมาตรา 116)
13. กำหนดให้อำนาจประธานกรรมการหรือคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (เพิ่มเติมมาตรา 117/1)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--