คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
1.1 ตามข้อกฎหมายปัจจุบันได้มีการให้สิทธิประโยชน์ภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานอยู่แล้วหลายมาตรการ ดังนี้
(1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายเพื่อฝึกอบรมลูกจ้าง ไม่ว่าจะดำเนินการฝึกอบรมเองหรือส่งลูกจ้างไปฝึกอบรม สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่าย
(2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ทำการฝึกอาชีพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 เพื่อเตรียมการก่อนเข้าทำงาน สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่าย
1.2 กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมและฝึกอาชีพแก่ลูกจ้างมากยิ่งขึ้น จึงเห็นควรให้บริษัทฯ ที่ดำเนินการตาม 1.1 สามารถหักรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.5 เท่า เป็น 2 เท่าของรายจ่าย
2. มาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษ
เพื่อเป็นการจูงใจให้ภาคเอกชนจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้าง อันจะทำให้ลูกจ้างมีรายได้สูงขึ้น เพียงพอต่อรายจ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นควรกำหนดให้บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างสามารถนำเงินดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของเงินที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยมีเงื่อนไขดังนี้
(1) เงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษ หมายถึงเงินที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนปกติเป็นประจำทุกเดือนในจำนวน ดังนี้
(1.1) สำหรับลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนเดือนละ 7,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท หมายถึง จำนวนเงินไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท
(1.2) สำหรับลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 7,000 บาท หมายถึงจำนวนที่ได้รับจริงแต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 7,000 บาท
(2) ต้องเริ่มจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษในระหว่างช่วงวันที่ 1 สิงหาคม 2548 ถึง 31 ธันวาคม 2548 จึงจะได้รับสิทธิหักรายจ่าย 1.5 เท่า ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550
(3) ลูกจ้างต้องได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่าเงินเดือน ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 และเงินเดือนของเดือนที่มีการเพิ่มเงินเดือนภายหลังเดือนธันวาคม พ.ศ.2547 และยังคงมีสิทธิได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทน หรือ เงินโบนัส เช่นเดียวกับลูกจ้างอื่น ๆ ปกติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 กรกฎาคม 2548--จบ--
1. มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
1.1 ตามข้อกฎหมายปัจจุบันได้มีการให้สิทธิประโยชน์ภาษีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานอยู่แล้วหลายมาตรการ ดังนี้
(1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีค่าใช้จ่ายเพื่อฝึกอบรมลูกจ้าง ไม่ว่าจะดำเนินการฝึกอบรมเองหรือส่งลูกจ้างไปฝึกอบรม สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่าย
(2) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ทำการฝึกอาชีพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ.2545 เพื่อเตรียมการก่อนเข้าทำงาน สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของรายจ่าย
1.2 กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมและฝึกอาชีพแก่ลูกจ้างมากยิ่งขึ้น จึงเห็นควรให้บริษัทฯ ที่ดำเนินการตาม 1.1 สามารถหักรายจ่ายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1.5 เท่า เป็น 2 เท่าของรายจ่าย
2. มาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้ภาคเอกชนจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษ
เพื่อเป็นการจูงใจให้ภาคเอกชนจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษให้แก่ลูกจ้าง อันจะทำให้ลูกจ้างมีรายได้สูงขึ้น เพียงพอต่อรายจ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เห็นควรกำหนดให้บริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพให้แก่ลูกจ้างสามารถนำเงินดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของเงินที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2548 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยมีเงื่อนไขดังนี้
(1) เงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษ หมายถึงเงินที่บริษัทฯ ได้จ่ายให้แก่ลูกจ้างเพิ่มขึ้นจากเงินเดือนปกติเป็นประจำทุกเดือนในจำนวน ดังนี้
(1.1) สำหรับลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนเดือนละ 7,000 บาท แต่ไม่เกิน 10,000 บาท หมายถึง จำนวนเงินไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท
(1.2) สำหรับลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 7,000 บาท หมายถึงจำนวนที่ได้รับจริงแต่เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้ว ต้องไม่เกินเดือนละ 7,000 บาท
(2) ต้องเริ่มจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพพิเศษในระหว่างช่วงวันที่ 1 สิงหาคม 2548 ถึง 31 ธันวาคม 2548 จึงจะได้รับสิทธิหักรายจ่าย 1.5 เท่า ทั้งนี้ สิทธิดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550
(3) ลูกจ้างต้องได้รับเงินเดือนไม่น้อยกว่าเงินเดือน ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 และเงินเดือนของเดือนที่มีการเพิ่มเงินเดือนภายหลังเดือนธันวาคม พ.ศ.2547 และยังคงมีสิทธิได้รับการพิจารณาขึ้นเงินเดือน ค่าตอบแทน หรือ เงินโบนัส เช่นเดียวกับลูกจ้างอื่น ๆ ปกติ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 กรกฎาคม 2548--จบ--