คณะรัฐมนตรีพิจารณาการเสนอความเห็นของคณะรัฐมนตรีต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นของคณะรัฐมนตรีต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... เสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสรุปประเด็นความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะรัฐมนตรีต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... และให้ส่งสภาร่างรัฐธรรมนูญ รวม 5 ประเด็น ดังนี้
1.1 ร่างหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ กำหนดในรายละเอียดค่อนข้างมาก สมควรปรับปรุงให้มีลักษณะเป็นหลักการกว้าง ๆ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการนำไปปฏิบัติ
1.2 ร่างมาตรา 186 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ในประเด็นเกี่ยวกับการทำสนธิสัญญากับนานาประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศยังไม่มีความเหมาะสมและจะมีผลกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการของกระทรวงการต่างประเทศ
1.3 ร่างมาตรา 177 (2) จะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการในการงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งและต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
1.4 ร่างมาตรา 246 เกี่ยวกับองค์กรอัยการ เห็นควรให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นองค์กรที่อยู่ในฝ่ายบริหารดังเช่นที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่แล้ว
1.5 ร่างหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของบุคคล เห็นควรให้มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพได้ในบางเรื่องตามที่กฎหมายบัญญัติ ดังเช่นที่เป็นอยู่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี พ.ศ. 2550
2. เห็นชอบให้รวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีแต่ละท่านไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤษภาคม 2550--จบ--
1. เห็นชอบให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีสรุปประเด็นความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะรัฐมนตรีต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช .... และให้ส่งสภาร่างรัฐธรรมนูญ รวม 5 ประเด็น ดังนี้
1.1 ร่างหมวด 5 แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ กำหนดในรายละเอียดค่อนข้างมาก สมควรปรับปรุงให้มีลักษณะเป็นหลักการกว้าง ๆ เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการนำไปปฏิบัติ
1.2 ร่างมาตรา 186 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ในประเด็นเกี่ยวกับการทำสนธิสัญญากับนานาประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศยังไม่มีความเหมาะสมและจะมีผลกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติราชการของกระทรวงการต่างประเทศ
1.3 ร่างมาตรา 177 (2) จะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการในการงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งและต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
1.4 ร่างมาตรา 246 เกี่ยวกับองค์กรอัยการ เห็นควรให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นองค์กรที่อยู่ในฝ่ายบริหารดังเช่นที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งมีความเหมาะสมอยู่แล้ว
1.5 ร่างหมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของบุคคล เห็นควรให้มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพได้ในบางเรื่องตามที่กฎหมายบัญญัติ ดังเช่นที่เป็นอยู่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปี พ.ศ. 2550
2. เห็นชอบให้รวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีแต่ละท่านไปเพื่อประกอบการพิจารณาของสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 พฤษภาคม 2550--จบ--