คณะรัฐมนตรีพิจารณาการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีรวม 6 มติ เกี่ยวกับเรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ดังนี้
1.1 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 สิงหาคม 2511 เรื่อง การขออนุมัติเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ
1.2 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 พฤศจิกายน 2522 เรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว
1.3 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 สิงหาคม 2548 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.4 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 มกราคม 2539 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.5 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 กรกฎาคม 2539 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.6 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศ
2. เห็นชอบในการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง แนวทางในการปฏิบัติการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณเพื่อให้มีความสมบูรณ์ชัดเจน ดังนี้
1. ในการพิจารณาอนุมัติให้ข้าราชการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวเพื่อประชุม สัมมนา หรือดูงาน ให้กระทรวง กรม พิจารณาอนุมัติเฉพาะกรณีที่จำเป็นและมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับภารกิจงานที่รับผิดชอบโดยตรง และเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานอย่างแท้จริง ตามแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบแล้ว โดยให้กำหนดจำนวนคนและระยะเวลาเดินทางให้เหมาะสมตามความเป็นและเป็นไปอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด
ในกรณีที่ข้าราชการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว โดยมิได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงเรื่องการขอโอนหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อนำไปใช้หรือสมทบในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ส่วนราชการจะต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับอย่างชัดเจน ทั้งนี้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับแผนการปฏิบัติงาน แผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สำนักงบประมาณได้เห็นชอบไว้ก่อนแล้ว และจะต้องให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเดินทางไปราชการต่างประเทศ
2. ให้ข้าราชการที่ได้รับอนุมัติให้ไปปฏิบัติราชการในต่างประเทศชั่วคราวจัดทำรายงานผลการเดินทาง (Progress report) และผลการปฏิบัติงานการประชุม สัมมนา หรือดูงานในแต่ละครั้ง แล้วนำเสนอรายงานต่อหัวหน้าส่วนราชการรับทราบ และพิจารณานำไปใช้ประโยชน์ให้แก่หน่วยงานต่อไปด้วยทุกครั้ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
1. เห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีรวม 6 มติ เกี่ยวกับเรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ดังนี้
1.1 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 สิงหาคม 2511 เรื่อง การขออนุมัติเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ
1.2 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 6 พฤศจิกายน 2522 เรื่อง ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว
1.3 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 29 สิงหาคม 2548 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.4 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 มกราคม 2539 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.5 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 กรกฎาคม 2539 เรื่อง การเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศ
1.6 มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 พฤษภาคม 2548 เรื่อง การเดินทางไปราชการต่างประเทศ
2. เห็นชอบในการปรับปรุงมติคณะรัฐมนตรีเรื่อง แนวทางในการปฏิบัติการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ตามความเห็นของสำนักงบประมาณเพื่อให้มีความสมบูรณ์ชัดเจน ดังนี้
1. ในการพิจารณาอนุมัติให้ข้าราชการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวเพื่อประชุม สัมมนา หรือดูงาน ให้กระทรวง กรม พิจารณาอนุมัติเฉพาะกรณีที่จำเป็นและมีความสำคัญเกี่ยวข้องกับภารกิจงานที่รับผิดชอบโดยตรง และเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานอย่างแท้จริง ตามแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบแล้ว โดยให้กำหนดจำนวนคนและระยะเวลาเดินทางให้เหมาะสมตามความเป็นและเป็นไปอย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด
ในกรณีที่ข้าราชการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว โดยมิได้กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ รวมถึงเรื่องการขอโอนหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณเพื่อนำไปใช้หรือสมทบในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ส่วนราชการจะต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับอย่างชัดเจน ทั้งนี้ จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับแผนการปฏิบัติงาน แผนการใช้จ่ายงบประมาณที่สำนักงบประมาณได้เห็นชอบไว้ก่อนแล้ว และจะต้องให้สำนักงบประมาณพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนที่จะเดินทางไปราชการต่างประเทศ
2. ให้ข้าราชการที่ได้รับอนุมัติให้ไปปฏิบัติราชการในต่างประเทศชั่วคราวจัดทำรายงานผลการเดินทาง (Progress report) และผลการปฏิบัติงานการประชุม สัมมนา หรือดูงานในแต่ละครั้ง แล้วนำเสนอรายงานต่อหัวหน้าส่วนราชการรับทราบ และพิจารณานำไปใช้ประโยชน์ให้แก่หน่วยงานต่อไปด้วยทุกครั้ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--