คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปสถานการณ์อุทกภัย และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2550) ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์สภาวะฝนตกหนักในห้วงระหว่างวันที่ 14-17 สิงหาคม 2550 โดยสรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูลถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2550) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 14 - 17 สิงหาคม 2550)
1.1 พื้นที่ประสบภัย จำนวน 2 จังหวัด 5 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 22 ตำบล 163 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และแม่ฮ่องสอน
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 25,679 คน 5,947 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน ถนน 10 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย 25 แห่ง เหมือง 10 แห่งบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 14,985 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4,457,500 บาท
1.3 สถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ยังคงมีน้ำท่วมขังที่จังหวัดเชียงรายในบางพื้นที่สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนสถานการณ์อุทกภัยได้ยุติแล้ว แยกได้ ดังนี้
1. จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550 เวลาประมาณ 06.20 น. ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร จำนวน 4 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 16 ตำบล 107 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเทิง ขุนตาล พญาเม็งราย เวียงชัย และกิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ราษฎรเดือดร้อน 22,500 คน 4,950 ครัวเรือน บ้านเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 14,335 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ มีรายละเอียด ดังนี้
1) อำเภอเทิง ได้เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากจากดอยผาหม่นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 3 ตำบล 25 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลตับเต่า (หมู่ที่ 1,2,3,5,6,7,8,11,13,18,22) และ ตำบลหงาว (หมู่ที่ 1,2,3, 4,8,12,13,14,18,19,20) และตำบลเวียง (หมู่ที่ 10,15,17) ทำให้บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และราษฎรเดือดร้อน 450 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรประมาณ 1,200 ไร่ ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว
2) อำเภอขุนตาล ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่ที่ราบลุ่มน้ำแม่อิง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 3 ตำบล 35 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลบ้านต้า (หมู่ที่ 4,5,8,9,10,11,15) ตำบลยางฮอม (หมู่ที่ 1-6,8,9,15,16,17,18,20,21) และตำบลป่าตาล (หมู่ที่ 1-14) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 18,050 คน 3,700 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 7,760 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตรริมน้ำแม่อิง
3) อำเภอพญาเม็งราย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตาดควัน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำโครงการพระราชดำริ จึงได้ระบายน้ำออกทางช่องสปริลเวย์ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร จำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่ต๋ำ ตำบลแม่เปา และตำบลตาดควัน ในขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรได้คลี่คลายแล้ว โดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตร
4) อำเภอเวียงชัย ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลผางาม ตำบลดอนศิลา ตำบลเมืองชุม และตำบลเวียงเหนือ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 800 คน 200 ครัวเรือน ในขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรได้คลี่คลายแล้วโดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตร
5) กิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยปูเปี้ย บ้านน้ำตกพัฒนา ตำบลทุ่งก่อ ซึ่งก่อสร้างโดย นพค.35 (กรป.กลาง) อายุการใช้งานประมาณ 20 ปี ทำให้คันดินกั้นอ่างเก็บน้ำทรุดตัวและแนวคันดินขาดยาวประมาณ 15 เมตร น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 3 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลทุ่งก่อ (หมู่ที่ 1,2,4,6,7,10,-15) ตำบลป่าซาง (หมู่ที่ 3-8,14) และตำบลดงมหาวัน (หมู่ที่ 2,3,4,11) ราษฎรเดือดร้อน 600 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 5,375 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.
การให้ความช่วยเหลือ
(1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย อำเภอ กิ่งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสมาชิก อปพร. จำนวน 500 นาย ได้มอบข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม 500 ชุด แก่ผู้ประสบภัย ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น และแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
(2) นพค.35 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเข้าไปตรวจสอบสภาพอ่างเก็บน้ำห้วยปูเปี้ย เพื่อทำการซ่อมแซม รวมทั้งได้ตรวจสอบสภาพและซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำห้วยกั้ง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย
(3) อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำรถแบคโฮว์ จำนวน 5 คัน ไปทำการเปิดทางระบายน้ำลงสู่ลำน้ำแม่อิง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง
2. จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งลำน้ำสอย เข้าท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ จำนวน 6 ตำบล 56 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลปางหมู (หมู่ที่ 1-7,9,10) ตำบลผาบ่อง (หมู่ที่ 1-4,6-10,12) ตำบลห้วยโป่ง (หมู่ที่ 1-10,12-14) ตำบลห้วยผา (หมู่ที่ 1-8) ตำบลหมอกจำแป๋ (หมู่ที่ 1-3,7-9) ตำบลห้วยปูลิง (หมู่ที่ 1,3-11) ราษฎรเดือดร้อน 3,179 คน 997 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 650 ไร่ ถนน 10 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย 25 แห่ง เหมือง 10 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 4,457,500 บาท ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้ยุติลงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2550
การให้ความช่วยเหลือ นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองร้อย อส.จ.แม่ฮ่องสอน ที่ 1 สภ.อ.เมืองฯ ตชด.ที่ 336 อส. และ อปพร. ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2. การคาดหมายลักษณะอากาศในห้วงระหว่างวันที่ 15-21 สิงหาคม 2550
กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงวันที่ 15-17 ส.ค. 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง และร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ส.ค. 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15-19 ส.ค. 2550 บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา หรือที่ใกล้ทางน้ำไหล ในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ฝั่งตะวันตก ระมัดระวังอันตรายจากภัยของฝนที่ตกหนัก สำหรับชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
3. สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 สิงหาคม 2550--จบ--
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระหว่างวันที่ 14 - 17 สิงหาคม 2550)
1.1 พื้นที่ประสบภัย จำนวน 2 จังหวัด 5 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 22 ตำบล 163 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย และแม่ฮ่องสอน
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 25,679 คน 5,947 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน ถนน 10 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย 25 แห่ง เหมือง 10 แห่งบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 14,985 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ
3) มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 4,457,500 บาท
1.3 สถานการณ์อุทกภัยในปัจจุบัน ยังคงมีน้ำท่วมขังที่จังหวัดเชียงรายในบางพื้นที่สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนสถานการณ์อุทกภัยได้ยุติแล้ว แยกได้ ดังนี้
1. จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550 เวลาประมาณ 06.20 น. ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร จำนวน 4 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ 16 ตำบล 107 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเทิง ขุนตาล พญาเม็งราย เวียงชัย และกิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ราษฎรเดือดร้อน 22,500 คน 4,950 ครัวเรือน บ้านเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 14,335 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ มีรายละเอียด ดังนี้
1) อำเภอเทิง ได้เกิดฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลากจากดอยผาหม่นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 3 ตำบล 25 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลตับเต่า (หมู่ที่ 1,2,3,5,6,7,8,11,13,18,22) และ ตำบลหงาว (หมู่ที่ 1,2,3, 4,8,12,13,14,18,19,20) และตำบลเวียง (หมู่ที่ 10,15,17) ทำให้บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 1 หลัง และราษฎรเดือดร้อน 450 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรประมาณ 1,200 ไร่ ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว
2) อำเภอขุนตาล ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่ที่ราบลุ่มน้ำแม่อิง เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร จำนวน 3 ตำบล 35 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลบ้านต้า (หมู่ที่ 4,5,8,9,10,11,15) ตำบลยางฮอม (หมู่ที่ 1-6,8,9,15,16,17,18,20,21) และตำบลป่าตาล (หมู่ที่ 1-14) ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 18,050 คน 3,700 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 7,760 ไร่ บ่อปลา 300 บ่อ ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตรริมน้ำแม่อิง
3) อำเภอพญาเม็งราย ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยตาดควัน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำโครงการพระราชดำริ จึงได้ระบายน้ำออกทางช่องสปริลเวย์ น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร จำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่ต๋ำ ตำบลแม่เปา และตำบลตาดควัน ในขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรได้คลี่คลายแล้ว โดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตร
4) อำเภอเวียงชัย ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลผางาม ตำบลดอนศิลา ตำบลเมืองชุม และตำบลเวียงเหนือ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 800 คน 200 ครัวเรือน ในขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรได้คลี่คลายแล้วโดยยังคงมีน้ำท่วมขังเฉพาะในที่ลุ่มการเกษตร
5) กิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องน้ำป่าไหลหลากลงสู่อ่างเก็บน้ำห้วยปูเปี้ย บ้านน้ำตกพัฒนา ตำบลทุ่งก่อ ซึ่งก่อสร้างโดย นพค.35 (กรป.กลาง) อายุการใช้งานประมาณ 20 ปี ทำให้คันดินกั้นอ่างเก็บน้ำทรุดตัวและแนวคันดินขาดยาวประมาณ 15 เมตร น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 3 ตำบล 22 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลทุ่งก่อ (หมู่ที่ 1,2,4,6,7,10,-15) ตำบลป่าซาง (หมู่ที่ 3-8,14) และตำบลดงมหาวัน (หมู่ที่ 2,3,4,11) ราษฎรเดือดร้อน 600 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 5,375 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.30 ม.
การให้ความช่วยเหลือ
(1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย อำเภอ กิ่งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสมาชิก อปพร. จำนวน 500 นาย ได้มอบข้าวกล่องพร้อมน้ำดื่ม 500 ชุด แก่ผู้ประสบภัย ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น และแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
(2) นพค.35 ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรเข้าไปตรวจสอบสภาพอ่างเก็บน้ำห้วยปูเปี้ย เพื่อทำการซ่อมแซม รวมทั้งได้ตรวจสอบสภาพและซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำห้วยกั้ง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงด้วย
(3) อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำรถแบคโฮว์ จำนวน 5 คัน ไปทำการเปิดทางระบายน้ำลงสู่ลำน้ำแม่อิง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง
2. จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2550 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากล้นตลิ่งลำน้ำสอย เข้าท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองฯ จำนวน 6 ตำบล 56 หมู่บ้าน ได้แก่ ตำบลปางหมู (หมู่ที่ 1-7,9,10) ตำบลผาบ่อง (หมู่ที่ 1-4,6-10,12) ตำบลห้วยโป่ง (หมู่ที่ 1-10,12-14) ตำบลห้วยผา (หมู่ที่ 1-8) ตำบลหมอกจำแป๋ (หมู่ที่ 1-3,7-9) ตำบลห้วยปูลิง (หมู่ที่ 1,3-11) ราษฎรเดือดร้อน 3,179 คน 997 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 650 ไร่ ถนน 10 สาย สะพาน 5 แห่ง ฝาย 25 แห่ง เหมือง 10 แห่ง มูลค่าความเสียหาย 4,457,500 บาท ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้ยุติลงไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2550
การให้ความช่วยเหลือ นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน กองร้อย อส.จ.แม่ฮ่องสอน ที่ 1 สภ.อ.เมืองฯ ตชด.ที่ 336 อส. และ อปพร. ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเบื้องต้นและเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2. การคาดหมายลักษณะอากาศในห้วงระหว่างวันที่ 15-21 สิงหาคม 2550
กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงวันที่ 15-17 ส.ค. 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง และร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ทุกภาคของประเทศมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนในช่วงวันที่ 18-21 ส.ค. 2550 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15-19 ส.ค. 2550 บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา หรือที่ใกล้ทางน้ำไหล ในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ฝั่งตะวันตก ระมัดระวังอันตรายจากภัยของฝนที่ตกหนัก สำหรับชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
3. สำนักเลขาธิการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 สิงหาคม 2550--จบ--