คณะรัฐมนตรีรับทราบแนวทางดำเนินงานของกระทรวงพลังงานในการกำหนดวันเปิดบานประตูเขื่อนปากมูลตามที่กระทรวงพลังงานเสนอดังนี้
โดยที่การปิด-เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลเป็นประเด็นขัดแย้งที่มีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน 2 กลุ่ม ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นได้ กระทรวงพลังงานได้พิจารณาแล้วได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ ดังนี้
1. ปัจจุบันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่ใกล้เคียงมีเพียงพอใช้จ่ายให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างทั่วถึง แม้ไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนปากมูล ดังนั้น ความสำคัญของเขื่อนปากมูลจึงควรมุ่งเน้นด้านชลประทานและประมงเป็นหลัก ส่วนการผลิตไฟฟ้าควรพิจารณาเป็นผลพลอยได้
2. โดยที่ข้อเสนอกำหนดการปิด-เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลของประชาชนทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นมีความแตกต่างกันในช่วงระยะเวลา 15 วัน คือระหว่างวันที่ 1 — 15 มิถุนายน 2550 ประกอบกับจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ในขณะนี้ฝนเริ่มตกในพื้นที่ต้นน้ำมูลแล้ว ประกอบกับปริมาณน้ำมีมากกว่าปี 2549 และคาดว่าจะทำให้ปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนปากมูลเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังจากสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2550 ซึ่งจะทำให้ลำน้ำมีปริมาณน้ำเพียงพอให้ปลาสามารถอพยพขึ้นไปวางไข่บริเวณต้นน้ำเหนือเขื่อนปากมูลได้ และเพียงพอสำหรับการเตรียมกล้าและเตรียมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม จึงเห็นควรเริ่มเปิดประตูเขื่อนปากมูลในวันที่ 7 มิถุนายน 2550 และเปิดยกบานขึ้นสูงสุดในวันที่ 17 มิถุนายน 2550
3. กระทรวงพลังงานจะประสานกับกรมชลประทานในการปรับปรุงสถานีสูบน้ำ จำนวน 6 แห่งที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ให้สามารถสูบน้ำได้เมื่อระดับน้ำในลำน้ำมูลลดลงหลังจากการเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อให้สามารถสูบน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกของเกษตรกรได้โดยเฉพาะในช่วงภาวะฝนทิ้งช่วง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--
โดยที่การปิด-เปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลเป็นประเด็นขัดแย้งที่มีผลกระทบต่อการประกอบอาชีพของประชาชน 2 กลุ่ม ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นได้ กระทรวงพลังงานได้พิจารณาแล้วได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ ดังนี้
1. ปัจจุบันกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่ใกล้เคียงมีเพียงพอใช้จ่ายให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างทั่วถึง แม้ไม่มีการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนปากมูล ดังนั้น ความสำคัญของเขื่อนปากมูลจึงควรมุ่งเน้นด้านชลประทานและประมงเป็นหลัก ส่วนการผลิตไฟฟ้าควรพิจารณาเป็นผลพลอยได้
2. โดยที่ข้อเสนอกำหนดการปิด-เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลของประชาชนทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นมีความแตกต่างกันในช่วงระยะเวลา 15 วัน คือระหว่างวันที่ 1 — 15 มิถุนายน 2550 ประกอบกับจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ในขณะนี้ฝนเริ่มตกในพื้นที่ต้นน้ำมูลแล้ว ประกอบกับปริมาณน้ำมีมากกว่าปี 2549 และคาดว่าจะทำให้ปริมาณน้ำบริเวณเหนือเขื่อนปากมูลเพิ่มมากขึ้นในช่วงหลังจากสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน 2550 ซึ่งจะทำให้ลำน้ำมีปริมาณน้ำเพียงพอให้ปลาสามารถอพยพขึ้นไปวางไข่บริเวณต้นน้ำเหนือเขื่อนปากมูลได้ และเพียงพอสำหรับการเตรียมกล้าและเตรียมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม จึงเห็นควรเริ่มเปิดประตูเขื่อนปากมูลในวันที่ 7 มิถุนายน 2550 และเปิดยกบานขึ้นสูงสุดในวันที่ 17 มิถุนายน 2550
3. กระทรวงพลังงานจะประสานกับกรมชลประทานในการปรับปรุงสถานีสูบน้ำ จำนวน 6 แห่งที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ให้สามารถสูบน้ำได้เมื่อระดับน้ำในลำน้ำมูลลดลงหลังจากการเปิดประตูน้ำเขื่อนปากมูลเพื่อให้สามารถสูบน้ำสนับสนุนการเพาะปลูกของเกษตรกรได้โดยเฉพาะในช่วงภาวะฝนทิ้งช่วง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤษภาคม 2550--จบ--