คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและอนุมัติงบประมาณดำเนินการในวงเงิน จำนวน 8,000,000 บาท ให้หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งมอบหมายให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ประสานกับกระทรวงต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ผลการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบอุทกภัยกลุ่มต่างๆ ของหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดให้ผู้ประสบอุทกภัยและประชาชนได้รับทราบโดยทั่วถึงและเร่งด่วน
การดำเนินการ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดประชุมหารือหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งประกอบด้วย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักโฆษก) กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 พร้อมกับได้ร่วมกันจัดทำแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อน และประชาชนทั่วไปได้รับทราบแนวทางและผลการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความห่วงใยของรัฐบาล โดยมีกรอบแนวคิดและสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. รูปแบบการประชาสัมพันธ์ กำหนดรูปแบบและแผนการประชาสัมพันธ์โดยมุ่งเน้นในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเดิมการประชาสัมพันธ์ช่วงที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้สถานการณ์และมีส่วนร่วมในการบริจาคเงินให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับแผนการประชาสัมพันธ์ใหม่โดยเน้นในเรื่อง ผลการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัยกรณีเร่งด่วน จำนวน 5 ด้าน คือ (1) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร (2) การให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียน (3) การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (4) การให้ความช่วยเหลือผู้ที่บ้านเสียหายทั้งหลังและ บางส่วน และ (5) การให้ความช่วยเหลือผู้ว่างงาน
2. แหล่งข้อมูลการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จึงได้กำหนดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลาง และฝ่ายเลขานุการของ คชอ. จัดตั้ง “ศูนย์ประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้กระทรวง/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ให้การสนับสนุนข้อมูลเพื่อให้สื่อต่างๆ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ต่อไป
3. จุดเน้นในการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจะใช้วิธีการสอดแทรกไว้ในรายการปกติ หรือรายการที่ประชาชนให้ความสนใจ ทั้งสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม มุ่งเน้นให้ประชาชนและเด็กนักเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่เป็นศูนย์กลางในการประชาสัมพันธ์ หรือให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ความพึงพอใจต่อการช่วยเหลือของรัฐบาล โดยสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ทันที (Phone In)
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดเป้าหมายการประชาสัมพันธ์ผลการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงระยะเวลาและรูปแบบต่างๆ ได้แก่
- ระยะเร่งด่วน ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2550
- ประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 6 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะเป็นการขยายผลการประชาสัมพันธ์ไปยังทั่วประเทศต่อไป
4. การขอความร่วมมือสื่อภาคเอกชน นอกจากการประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่แล้ว จะต้องมีการประสานเพื่อขอความร่วมมือจากสื่อของภาคเอกชน ทั้งวิทยุโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะรายการที่มีผู้รับชมและรับฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะได้มีการประสานงานเพื่อขอความร่วมมือจากผู้จัดรายการ พิธีกร หรือบรรณาธิการต่อไป
5. ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ จะเป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ ของผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อน หรือในบางพื้นที่ที่การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง หรือมีความประสงค์จะขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งร้องเรียนมาได้ยังหมายเลข โทรศัพท์ 1111 หรือ 1376 (ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล) โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งจะได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีได้ตรวจติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ต่อไป
6. หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย
(1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(2) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักโฆษก)
(3) กรมประชาสัมพันธ์
(4) บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)
(5) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5
7. แหล่งเงินงบประมาณในการดำเนินการ ใช้งบประมาณเหลือจ่ายของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2549 หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป จากโครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคฯ จำนวน 8,000,000 บาท โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดสรรเงินดังกล่าวสนับสนุนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้เบิกจ่าย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาลได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือไปมากในระดับหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันยังขาดการประชาสัมพันธ์ที่เป็นระบบต่อเนื่อง และทั่วถึง จึงได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขึ้น ประกอบกับแผนประชาสัมพันธ์ฯ นี้ หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ได้พิจารณาและบูรณาการ การทำงานร่วมกันแล้ว จึงเห็นสมควรพิจารณาอนุมัติแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อให้หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มกราคม 2550--จบ--
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีในคราวประชุม เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2550 นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งมอบหมายให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการอำนวยการกำกับ ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (คชอ.) ประสานกับกระทรวงต่างๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ผลการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบอุทกภัยกลุ่มต่างๆ ของหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมดให้ผู้ประสบอุทกภัยและประชาชนได้รับทราบโดยทั่วถึงและเร่งด่วน
การดำเนินการ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดประชุมหารือหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ ซึ่งประกอบด้วย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักโฆษก) กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) และสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 พร้อมกับได้ร่วมกันจัดทำแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อน และประชาชนทั่วไปได้รับทราบแนวทางและผลการให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในความห่วงใยของรัฐบาล โดยมีกรอบแนวคิดและสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. รูปแบบการประชาสัมพันธ์ กำหนดรูปแบบและแผนการประชาสัมพันธ์โดยมุ่งเน้นในเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งเดิมการประชาสัมพันธ์ช่วงที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย เป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้สถานการณ์และมีส่วนร่วมในการบริจาคเงินให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น จึงต้องมีการปรับแผนการประชาสัมพันธ์ใหม่โดยเน้นในเรื่อง ผลการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูความเสียหายของรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัยกรณีเร่งด่วน จำนวน 5 ด้าน คือ (1) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร (2) การให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียน (3) การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อย (4) การให้ความช่วยเหลือผู้ที่บ้านเสียหายทั้งหลังและ บางส่วน และ (5) การให้ความช่วยเหลือผู้ว่างงาน
2. แหล่งข้อมูลการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนได้รับทราบข้อมูลต่างๆ จึงได้กำหนดให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลาง และฝ่ายเลขานุการของ คชอ. จัดตั้ง “ศูนย์ประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้กระทรวง/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ให้การสนับสนุนข้อมูลเพื่อให้สื่อต่างๆ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ต่อไป
3. จุดเน้นในการประชาสัมพันธ์ การประชาสัมพันธ์การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจะใช้วิธีการสอดแทรกไว้ในรายการปกติ หรือรายการที่ประชาชนให้ความสนใจ ทั้งสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม มุ่งเน้นให้ประชาชนและเด็กนักเรียนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่เป็นศูนย์กลางในการประชาสัมพันธ์ หรือให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น ความพึงพอใจต่อการช่วยเหลือของรัฐบาล โดยสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ทันที (Phone In)
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดเป้าหมายการประชาสัมพันธ์ผลการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงระยะเวลาและรูปแบบต่างๆ ได้แก่
- ระยะเร่งด่วน ดำเนินการประชาสัมพันธ์ทางสื่อวิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ ตั้งแต่ วันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2550
- ประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 6 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และนครปฐม เพื่อให้สื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมดำเนินการประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะเป็นการขยายผลการประชาสัมพันธ์ไปยังทั่วประเทศต่อไป
4. การขอความร่วมมือสื่อภาคเอกชน นอกจากการประชาสัมพันธ์โดยใช้สื่อของรัฐที่มีอยู่แล้ว จะต้องมีการประสานเพื่อขอความร่วมมือจากสื่อของภาคเอกชน ทั้งวิทยุโทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเฉพาะรายการที่มีผู้รับชมและรับฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะได้มีการประสานงานเพื่อขอความร่วมมือจากผู้จัดรายการ พิธีกร หรือบรรณาธิการต่อไป
5. ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ จะเป็นศูนย์กลางในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ต่างๆ ของผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับความเดือดร้อน หรือในบางพื้นที่ที่การช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง หรือมีความประสงค์จะขอรับการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยสามารถโทรศัพท์แจ้งร้องเรียนมาได้ยังหมายเลข โทรศัพท์ 1111 หรือ 1376 (ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล) โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ รวมทั้งจะได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีได้ตรวจติดตามการดำเนินงานในพื้นที่ต่อไป
6. หน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย
(1) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
(2) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สำนักโฆษก)
(3) กรมประชาสัมพันธ์
(4) บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)
(5) สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5
7. แหล่งเงินงบประมาณในการดำเนินการ ใช้งบประมาณเหลือจ่ายของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2549 หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป จากโครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับการปฏิบัติราชการในภูมิภาคฯ จำนวน 8,000,000 บาท โดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดสรรเงินดังกล่าวสนับสนุนให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นผู้เบิกจ่าย
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า การดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของรัฐบาลได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือไปมากในระดับหนึ่งแล้ว แต่ปัจจุบันยังขาดการประชาสัมพันธ์ที่เป็นระบบต่อเนื่อง และทั่วถึง จึงได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยขึ้น ประกอบกับแผนประชาสัมพันธ์ฯ นี้ หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องด้านการประชาสัมพันธ์ได้พิจารณาและบูรณาการ การทำงานร่วมกันแล้ว จึงเห็นสมควรพิจารณาอนุมัติแผนประชาสัมพันธ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อให้หน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 มกราคม 2550--จบ--