คณะรัฐมนตรีเห็นชอบจำหน่ายหุ้นของบริษัทจังหวัดที่มีราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 5 บริษัท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. กระทรวงพาณิชย์ได้สนับสนุนให้มีการก่อตั้งและร่วมลงทุนถือหุ้นในบริษัทจังหวัดทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 โดยมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่เนื่องจากสถานภาพทางการค้ามีการปรับตัวไปตามกลไกตลาด มีการแข่งขันกันมากขึ้น หลายบริษัทประสบการขาดทุนและเลิกกิจการไปแล้ว บริษัทที่ยังคงอยู่ก็ไม่เจริญก้าวหน้าและไม่อาจตอบสนองนโยบายของทางราชการในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าได้อย่างเต็มที่ หากกระทรวงพาณิชย์ยังคงถือหุ้นต่อไปจะเป็นภาระโดยไม่จำเป็น คณะกรรมการพิจารณาสะสาง ถอน และจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ ในบริษัทจังหวัดที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้น จึงได้มีมติให้ถอนและจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ในบริษัทจังหวัดทั้งหมด
2. กระทรวงพาณิชย์ได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 และดำเนินการอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยลำดับ ดังนี้
2.1 เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบในหลักการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดที่มีมูลค่าตามงบดุลไม่เกิน 500,000 บาท จำนวน 26 บริษัท
2.2 เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดซึ่งมีมูลค่าตามงบดุลเกิน 500,000 บาท จำนวน 30 บริษัท และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543
2.3 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัด ตามคำสั่ง พณ. ที่ 385 / 2548 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2548
2.4 ว่าจ้างบริษัท เยนเนอรัล แวลูเอชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ทำการประเมินราคาทรัพย์สินและมูลค่าหุ้นของบริษัทจังหวัด
2.5 คณะกรรมการพิจารณาการจำหน่ายหุ้นฯ ตามข้อ 2.3 เห็นชอบให้กำหนดแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้น ดังนี้
1) กำหนดแนวทางให้จำหน่ายหุ้นเป็นรายบริษัทโดยวิธียื่นซองประมูลราคา
2) กำหนดราคาจำหน่ายหุ้นให้ใช้ราคากลางตามการประเมินราคาจำหน่ายหุ้นของบริษัท เยนเนอรัล แวลูเอชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นเกณฑ์ โดยให้ปรับปรุงข้อมูลในส่วนของราคาหุ้นที่จะจำหน่ายให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลาที่จำหน่ายจริง และในกรณีที่ไม่สามารถจำหน่ายหุ้นได้ตามมูลค่าหุ้นที่บริษัทฯ ประเมินไว้ ก็ให้พิจารณาลดหลั่นทีละขั้นโดยให้พิจารณามูลค่าหุ้นที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดถึงมูลค่าต่ำสุด
2.6 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นตามข้อ 2.5 และได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องที่จะใช้แนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลการจำหน่ายหุ้นให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม ไม่ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์
2.7 จากการประเมินราคาทรัพย์สินและมูลค่าหุ้นของบริษัทจังหวัด ตามที่กล่าวในข้อ 2.4 ปรากฏว่า บริษัทจังหวัดที่จะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท มีจำนวน 5 บริษัท คือ
1) บริษัท กระบี่จังหวัดพาณิชย์ จำกัด 20.438 ล้านบาท
2) บริษัท นครปฐมจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 15.596 ล้านบาท
3) บริษัท สุราษฎร์ธานีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 16.256 ล้านบาท
4) บริษัท นครราชสีมาจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 15.152 ล้านบาท
5) บริษัท กาญจนบุรีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 12.232 ล้านบาท
2.8 สำหรับบริษัทจังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 5 บริษัทที่กล่าวในข้อ 2.7 ซึ่งเป็นบริษัทที่จะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทนั้น กระทรวงพาณิชย์ก็จะดำเนินการจำหน่ายหุ้นตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวในข้อ 2.5 เช่นเดียวกัน โดยในการปรับปรุงข้อมูลของราคาหุ้นที่จะจำหน่ายให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลาที่จำหน่ายจริง หากปรากฏว่ามีบริษัทจังหวัดใดจะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์จะรวบรวมเสนอขอมติคณะรัฐมนตรีจำหน่ายหุ้นเพิ่มเติมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มิถุนายน 2550--จบ--
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. กระทรวงพาณิชย์ได้สนับสนุนให้มีการก่อตั้งและร่วมลงทุนถือหุ้นในบริษัทจังหวัดทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 โดยมีวัตถุประสงค์ในการควบคุมและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่เนื่องจากสถานภาพทางการค้ามีการปรับตัวไปตามกลไกตลาด มีการแข่งขันกันมากขึ้น หลายบริษัทประสบการขาดทุนและเลิกกิจการไปแล้ว บริษัทที่ยังคงอยู่ก็ไม่เจริญก้าวหน้าและไม่อาจตอบสนองนโยบายของทางราชการในการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าได้อย่างเต็มที่ หากกระทรวงพาณิชย์ยังคงถือหุ้นต่อไปจะเป็นภาระโดยไม่จำเป็น คณะกรรมการพิจารณาสะสาง ถอน และจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ ในบริษัทจังหวัดที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้น จึงได้มีมติให้ถอนและจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ในบริษัทจังหวัดทั้งหมด
2. กระทรวงพาณิชย์ได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจำหน่ายกิจการหรือหุ้นที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเป็นเจ้าของ พ.ศ. 2504 และดำเนินการอื่นในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยลำดับ ดังนี้
2.1 เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบในหลักการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดที่มีมูลค่าตามงบดุลไม่เกิน 500,000 บาท จำนวน 26 บริษัท
2.2 เสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในหลักการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดซึ่งมีมูลค่าตามงบดุลเกิน 500,000 บาท จำนวน 30 บริษัท และคณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2543
2.3 แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัด ตามคำสั่ง พณ. ที่ 385 / 2548 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2548
2.4 ว่าจ้างบริษัท เยนเนอรัล แวลูเอชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ให้ทำการประเมินราคาทรัพย์สินและมูลค่าหุ้นของบริษัทจังหวัด
2.5 คณะกรรมการพิจารณาการจำหน่ายหุ้นฯ ตามข้อ 2.3 เห็นชอบให้กำหนดแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้น ดังนี้
1) กำหนดแนวทางให้จำหน่ายหุ้นเป็นรายบริษัทโดยวิธียื่นซองประมูลราคา
2) กำหนดราคาจำหน่ายหุ้นให้ใช้ราคากลางตามการประเมินราคาจำหน่ายหุ้นของบริษัท เยนเนอรัล แวลูเอชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นเกณฑ์ โดยให้ปรับปรุงข้อมูลในส่วนของราคาหุ้นที่จะจำหน่ายให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลาที่จำหน่ายจริง และในกรณีที่ไม่สามารถจำหน่ายหุ้นได้ตามมูลค่าหุ้นที่บริษัทฯ ประเมินไว้ ก็ให้พิจารณาลดหลั่นทีละขั้นโดยให้พิจารณามูลค่าหุ้นที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดถึงมูลค่าต่ำสุด
2.6 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้ความเห็นชอบแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นตามข้อ 2.5 และได้ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นดังกล่าว ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องที่จะใช้แนวทางและวิธีการจำหน่ายหุ้นของกระทรวงพาณิชย์ และองค์การคลังสินค้าที่ถืออยู่ในบริษัทจังหวัดตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ขอให้กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแลการจำหน่ายหุ้นให้เป็นไปด้วยความโปร่งใสและสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม ไม่ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์
2.7 จากการประเมินราคาทรัพย์สินและมูลค่าหุ้นของบริษัทจังหวัด ตามที่กล่าวในข้อ 2.4 ปรากฏว่า บริษัทจังหวัดที่จะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท มีจำนวน 5 บริษัท คือ
1) บริษัท กระบี่จังหวัดพาณิชย์ จำกัด 20.438 ล้านบาท
2) บริษัท นครปฐมจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 15.596 ล้านบาท
3) บริษัท สุราษฎร์ธานีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 16.256 ล้านบาท
4) บริษัท นครราชสีมาจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 15.152 ล้านบาท
5) บริษัท กาญจนบุรีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด 12.232 ล้านบาท
2.8 สำหรับบริษัทจังหวัดอื่นนอกเหนือจาก 5 บริษัทที่กล่าวในข้อ 2.7 ซึ่งเป็นบริษัทที่จะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทนั้น กระทรวงพาณิชย์ก็จะดำเนินการจำหน่ายหุ้นตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวในข้อ 2.5 เช่นเดียวกัน โดยในการปรับปรุงข้อมูลของราคาหุ้นที่จะจำหน่ายให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ เวลาที่จำหน่ายจริง หากปรากฏว่ามีบริษัทจังหวัดใดจะจำหน่ายหุ้นได้ในราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์จะรวบรวมเสนอขอมติคณะรัฐมนตรีจำหน่ายหุ้นเพิ่มเติมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 มิถุนายน 2550--จบ--