คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
1. ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
1.1 วัน — เวลา และสถานที่เกิดเหตุ
เหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2548 เวลาประมาณ 20.21 น. บริเวณจุดนัดพบ (Meeting Point) หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ท่าอากาศยานใหญ่ จังหวัดสงขลา
1.2 ความเสียหายที่เกิดขึ้น
1.2.1 ความเสียหายในชีวิต
- มีผู้เสียชีวิตคนไทย 2 ราย (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 ราย)
- มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 72 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 45 คน แยกเป็นคนไทย 43 คน และชาวต่างประเทศ 2 คน
1.2.2 ความเสียหายในทรัพย์สิน
เหตุระเบิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) (ห้องโถงผู้โดยสาร ห้องปฐมพยาบาล เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ห้องรับฝากกระเป๋า เก้าอี้นั่งผู้โดยสาร และกระจกห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ AIRSIDE) และเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของเอกชนในบริเวณท่าอากาศยาน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ร้านนายสิทธิโชคตั้งทรัพย์ยากร บริษัท คัลมาติเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โกล์สวิส จำกัด บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ ไลน์ จำกัด และบริษัท แมนแอ โฟรสเซ็นฟูดส์ จำกัด
2. การดำเนินการแก้ไขปัญหา
2.1 การดำเนินการขณะเกิดเหตุ
- อพยพผู้โดยสารไปยังบริเวณลานจอดรถยนต์
- ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
- ประสานกับหน่วยเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อประชุมสรุปสถานการณ์ และการกำหนดพื้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเตรียมการให้บริการในวันรุ่งขึ้น
- จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้โดยสาร
2.2 การดำเนินการหลังเกิดเหตุ
- ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุระเบิดบางส่วน เพื่อรอการพิสูจน์หลักฐาน โดยละเอียด ประสานสายการบินให้ทำการบินตามปกติ
- หลังจากหน่วยทำลายวัตถุระเบิดตรวจสอบพื้นที่ว่าปลอดภัยแล้ว ประสานสายการบินให้ทำการบินตามปกติ
- จัดตั้งจุดตรวจค้นสัมภาระ และร่างกายผู้โดยสารในอาคารบริเวณหน้าอาคารท่าอากาศยาน
2.3 การดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมมอบเงินปลอบขวัญ คนละ 30,000 บาท โดยบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ในส่วนของผู้เสียชีวิต บริษัทฯ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
3. การเตรียมการมาตรการป้องกัน
กระทรวงคมนาคมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) พร้อมผู้บริหารระดับสูง และผู้เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และประชุมร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อหารือถึงมาตรการป้องกัน เพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มาใช้บริการที่ท่าอากาศยาน ซึ่งได้มอบนโยบายเป็นแนวทางดำเนินการ และการขอความร่วมมือฝ่ายต่างๆ ดังนี้
3.1 การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
3.1.1 ด้านกำลังคน
นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2547 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ในระดับเข้มข้น (ระดับสีส้ม) แล้ว โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่จาก 12 คน เป็น 29 คน ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ 13 คน เจ้าหน้าที่ทหารกองบิน 56 จำนวน 8 นาย เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหอยโข่ง 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย และเจ้าหน้าที่สารวัตรมณฑลทหารบก 42 จำนวน 2 นาย และเมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น ได้ขอความร่วมมือกองทัพอากาศจัดส่งเจ้าหน้าที่มาประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรคลองหอยโขงมาประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย โดยให้หน่วยต้นสังกัดขอตั้งงบประมาณในการดูแลเจ้าหน้าที่มาประจำด้วย และให้ใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมเป็นการต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
3.1.2 ด้านอุปกรณ์
ให้ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ครอบคลุมทุกจุดในพื้นที่ท่าอากาศยานโดยเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยตลอดเวลา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการเตือนภัย ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานหาดใหญ่มีโทรทัศน์วงจรปิดอยู่จำนวน 22 เครื่อง และกำลังจะเปิดใช้งานอีก 25 เครื่อง โดยให้มีการปรับปรุงเครื่องเดิมให้ใช้การได้ดีเท่ากับเครื่องที่จะเปิดใช้งานใหม่ด้วย
3.1.3 ด้านอื่นๆ ขอความร่วมมือกองบิน 56 และมณฑลทหารบก 42 จัดชุดสุนัขดมกลิ่นมาประจำที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ควบคู่ไปกับระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งให้พิจารณาจัดไปประจำท่าอากาศยานขนาดใหญ่ทุกแห่งทั่วประเทศด้วย
3.2 การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย
กระทรวงคมนาคมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดจะประชุมร่วมกับกองทัพอากาศ ในวันอังคารที่ 5 เมษายน 2548 เพื่อหารือและกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ลักษณะเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น โดยจะต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้นด้วย
4. เรื่องอื่น ๆ
กระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ โดยนอกจากจะพิจารณามาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณท่าอากาศยานแล้ว ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการสถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสารที่อำเภอหาดใหญ่ด้วย จึงได้มอบนโยบายเป็นแนวทางปฏิบัติไว้ ดังนี้
4.1 สถานีรถไฟหาดใหญ่
บริเวณสถานีรถไฟเป็นช่องทางเปิดเข้า-ออกได้หลายทาง ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการ :-
4.1.1 สร้างรั้วล้อมรอบบริเวณสถานี เพื่อควบคุมทางเข้า-ออกให้เหลือทางเดียว (การสร้างรั้วจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 เมษายน 2548)
4.1.2 ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั้งบริเวณทางเข้า และทางออก จุดละ 1 เครื่อง เพื่อตรวจตราและติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยทุกระยะ ส่วนกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่เดิมแล้ว 18 เครื่อง ให้ตรวจสอบการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ และให้พิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมที่โรงรถจักรด้วย
4.1.3 จัดชุดรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกผลัดละ 20 คน โดยในแต่ละวันให้มี 2 ผลัด (40 คน) ประกอบด้วย ตำรวจรถไฟ 6 นาย ตำรวจพื้นที่ 2-4 นาย และเวรรักษาความปลอดภัยขององค์การทหารผ่านศึก 11 คน
4.2 สถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่
บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ของกรมการขนส่งทางบก มีลักษณะเป็นช่องทางเปิดเข้า-ออกได้ทุกทิศทาง การดูแลรักษาความปลอดภัยกระทำได้ลำบาก และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการ :-
4.2.1 สร้างรั้วโดยรอบสถานี เพื่อกำหนดทางเข้า-ออกของรถโดยสาร และผู้โดยสารเป็นทางเดียว ให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย
4.2.2 กำหนดมาตรการรถที่เข้ามาส่งผู้โดยสารไม่ให้มีการจอดรอ หรือจอดทิ้งไว้
4.2.3 ให้ปรับปรุงระบบโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่เดิม 8 เครื่อง ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และพิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมด้วย
4.2.4 ให้เพิ่มกำลังคนในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีอยู่เดิม 5 คน โดยขอความร่วมมือจากตำรวจ และทหาร ส่งเจ้าหน้าที่ประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย ซึ่งต้องตั้งงบประมาณสนับสนุนเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่มาประจำด้วย
อนึ่ง กระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัด ในวันที่ 5 เมษายน 2548 เวลา 17.00 น. เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกภารกิจความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--
1. ข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
1.1 วัน — เวลา และสถานที่เกิดเหตุ
เหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2548 เวลาประมาณ 20.21 น. บริเวณจุดนัดพบ (Meeting Point) หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ท่าอากาศยานใหญ่ จังหวัดสงขลา
1.2 ความเสียหายที่เกิดขึ้น
1.2.1 ความเสียหายในชีวิต
- มีผู้เสียชีวิตคนไทย 2 ราย (เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 ราย)
- มีผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 72 คน ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 45 คน แยกเป็นคนไทย 43 คน และชาวต่างประเทศ 2 คน
1.2.2 ความเสียหายในทรัพย์สิน
เหตุระเบิดก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของบริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) (ห้องโถงผู้โดยสาร ห้องปฐมพยาบาล เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ห้องรับฝากกระเป๋า เก้าอี้นั่งผู้โดยสาร และกระจกห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ AIRSIDE) และเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของเอกชนในบริเวณท่าอากาศยาน ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ร้านนายสิทธิโชคตั้งทรัพย์ยากร บริษัท คัลมาติเนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โกล์สวิส จำกัด บริษัท โอเรียนท์ ไทย แอร์ ไลน์ จำกัด และบริษัท แมนแอ โฟรสเซ็นฟูดส์ จำกัด
2. การดำเนินการแก้ไขปัญหา
2.1 การดำเนินการขณะเกิดเหตุ
- อพยพผู้โดยสารไปยังบริเวณลานจอดรถยนต์
- ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
- ประสานกับหน่วยเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อประชุมสรุปสถานการณ์ และการกำหนดพื้นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเตรียมการให้บริการในวันรุ่งขึ้น
- จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้โดยสาร
2.2 การดำเนินการหลังเกิดเหตุ
- ปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุระเบิดบางส่วน เพื่อรอการพิสูจน์หลักฐาน โดยละเอียด ประสานสายการบินให้ทำการบินตามปกติ
- หลังจากหน่วยทำลายวัตถุระเบิดตรวจสอบพื้นที่ว่าปลอดภัยแล้ว ประสานสายการบินให้ทำการบินตามปกติ
- จัดตั้งจุดตรวจค้นสัมภาระ และร่างกายผู้โดยสารในอาคารบริเวณหน้าอาคารท่าอากาศยาน
2.3 การดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บพร้อมมอบเงินปลอบขวัญ คนละ 30,000 บาท โดยบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ในส่วนของผู้เสียชีวิต บริษัทฯ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อไป
3. การเตรียมการมาตรการป้องกัน
กระทรวงคมนาคมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) พร้อมผู้บริหารระดับสูง และผู้เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และประชุมร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อหารือถึงมาตรการป้องกัน เพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ประชาชนที่มาใช้บริการที่ท่าอากาศยาน ซึ่งได้มอบนโยบายเป็นแนวทางดำเนินการ และการขอความร่วมมือฝ่ายต่างๆ ดังนี้
3.1 การเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
3.1.1 ด้านกำลังคน
นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2547 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ในระดับเข้มข้น (ระดับสีส้ม) แล้ว โดยเพิ่มเจ้าหน้าที่จาก 12 คน เป็น 29 คน ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ 13 คน เจ้าหน้าที่ทหารกองบิน 56 จำนวน 8 นาย เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหอยโข่ง 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ 2 นาย เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย และเจ้าหน้าที่สารวัตรมณฑลทหารบก 42 จำนวน 2 นาย และเมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้น ได้ขอความร่วมมือกองทัพอากาศจัดส่งเจ้าหน้าที่มาประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรคลองหอยโขงมาประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย โดยให้หน่วยต้นสังกัดขอตั้งงบประมาณในการดูแลเจ้าหน้าที่มาประจำด้วย และให้ใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมเป็นการต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
3.1.2 ด้านอุปกรณ์
ให้ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ครอบคลุมทุกจุดในพื้นที่ท่าอากาศยานโดยเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยตลอดเวลา เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการเตือนภัย ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานหาดใหญ่มีโทรทัศน์วงจรปิดอยู่จำนวน 22 เครื่อง และกำลังจะเปิดใช้งานอีก 25 เครื่อง โดยให้มีการปรับปรุงเครื่องเดิมให้ใช้การได้ดีเท่ากับเครื่องที่จะเปิดใช้งานใหม่ด้วย
3.1.3 ด้านอื่นๆ ขอความร่วมมือกองบิน 56 และมณฑลทหารบก 42 จัดชุดสุนัขดมกลิ่นมาประจำที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ควบคู่ไปกับระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งให้พิจารณาจัดไปประจำท่าอากาศยานขนาดใหญ่ทุกแห่งทั่วประเทศด้วย
3.2 การยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย
กระทรวงคมนาคมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดจะประชุมร่วมกับกองทัพอากาศ ในวันอังคารที่ 5 เมษายน 2548 เพื่อหารือและกำหนดแนวทางปฏิบัติร่วมกัน เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ลักษณะเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น โดยจะต้องมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้นด้วย
4. เรื่องอื่น ๆ
กระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ โดยนอกจากจะพิจารณามาตรการรักษาความปลอดภัยในบริเวณท่าอากาศยานแล้ว ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่มาใช้บริการสถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสารที่อำเภอหาดใหญ่ด้วย จึงได้มอบนโยบายเป็นแนวทางปฏิบัติไว้ ดังนี้
4.1 สถานีรถไฟหาดใหญ่
บริเวณสถานีรถไฟเป็นช่องทางเปิดเข้า-ออกได้หลายทาง ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเบื้องต้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการ :-
4.1.1 สร้างรั้วล้อมรอบบริเวณสถานี เพื่อควบคุมทางเข้า-ออกให้เหลือทางเดียว (การสร้างรั้วจะแล้วเสร็จในวันที่ 7 เมษายน 2548)
4.1.2 ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั้งบริเวณทางเข้า และทางออก จุดละ 1 เครื่อง เพื่อตรวจตราและติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยทุกระยะ ส่วนกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่เดิมแล้ว 18 เครื่อง ให้ตรวจสอบการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ และให้พิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมที่โรงรถจักรด้วย
4.1.3 จัดชุดรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกผลัดละ 20 คน โดยในแต่ละวันให้มี 2 ผลัด (40 คน) ประกอบด้วย ตำรวจรถไฟ 6 นาย ตำรวจพื้นที่ 2-4 นาย และเวรรักษาความปลอดภัยขององค์การทหารผ่านศึก 11 คน
4.2 สถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่
บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารหาดใหญ่ ของกรมการขนส่งทางบก มีลักษณะเป็นช่องทางเปิดเข้า-ออกได้ทุกทิศทาง การดูแลรักษาความปลอดภัยกระทำได้ลำบาก และเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ ให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการ :-
4.2.1 สร้างรั้วโดยรอบสถานี เพื่อกำหนดทางเข้า-ออกของรถโดยสาร และผู้โดยสารเป็นทางเดียว ให้ง่ายต่อการรักษาความปลอดภัย
4.2.2 กำหนดมาตรการรถที่เข้ามาส่งผู้โดยสารไม่ให้มีการจอดรอ หรือจอดทิ้งไว้
4.2.3 ให้ปรับปรุงระบบโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งอยู่เดิม 8 เครื่อง ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และพิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมด้วย
4.2.4 ให้เพิ่มกำลังคนในการรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีอยู่เดิม 5 คน โดยขอความร่วมมือจากตำรวจ และทหาร ส่งเจ้าหน้าที่ประจำเพิ่มเติมอีก 10 นาย ซึ่งต้องตั้งงบประมาณสนับสนุนเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่มาประจำด้วย
อนึ่ง กระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในสังกัด ในวันที่ 5 เมษายน 2548 เวลา 17.00 น. เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมการป้องกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกภารกิจความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--