คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดทำหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพัน ด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา พร้อมทั้งนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย ดังนี้
1. การเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาตามร่างมาตรา 10 ควรเพิ่มเติมบทบัญญัติให้รัฐสภาสามารถมอบอำนาจให้คณะรัฐมนตรีในการเจรจาจัดทำหนังสือสัญญาได้ เพื่อความคล่องตัวในการเจรจา
2. การนำหนังสือสัญญาที่ได้ลงนามแล้วเสนอรัฐสภาตามร่างมาตรา 14 สมควรพิจารณาว่าจำเป็นต้องปรับปรุงข้อความให้ชัดเจนยิ่งขึ้นหรือไม่ว่ารัฐสภาสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบเท่านั้น จะแก้ไขเพิ่มเติมประการใดไม่ได้
3. สมควรพิจารณาว่าการกำหนดให้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามร่างมาตรา 9 มีความจำเป็นต้องกำหนดในร่างพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ เนื่องจากมีกฎหมายหรือระเบียบกำหนดเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะอยู่แล้ว
กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า มาตรา 190 วรรคห้า ประกอบมาตรา 303 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้มีกฎหมายว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพัน ด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือสัญญาดังกล่าว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “หนังสือสัญญา” และ “หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพัน ด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ” เป็นต้น (ร่างมาตรา 5)
2. กำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินการจัดทำหนังสือสัญญา (หมวด 1 ร่างมาตรา 7 ถึงร่างมาตรา 16)
3. กำหนดหลักเกณฑ์การแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือสัญญา (ร่างมาตรา 17)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการหนังสือสัญญาประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ให้อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 18 และร่างมาตรา 22)
5. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่ง (ร่างมาตรา 19 ถึงร่างมาตรา 21)
6. กำหนดองค์ประชุมคณะกรรมการ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและอนุกรรมการ และให้กรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานได้รับค่าตอบแทนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ร่างมาตรา 23 ถึงร่างมาตรา 26)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2550--จบ--
ทั้งนี้ ให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วย ดังนี้
1. การเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาตามร่างมาตรา 10 ควรเพิ่มเติมบทบัญญัติให้รัฐสภาสามารถมอบอำนาจให้คณะรัฐมนตรีในการเจรจาจัดทำหนังสือสัญญาได้ เพื่อความคล่องตัวในการเจรจา
2. การนำหนังสือสัญญาที่ได้ลงนามแล้วเสนอรัฐสภาตามร่างมาตรา 14 สมควรพิจารณาว่าจำเป็นต้องปรับปรุงข้อความให้ชัดเจนยิ่งขึ้นหรือไม่ว่ารัฐสภาสามารถพิจารณาให้ความเห็นชอบ หรือไม่เห็นชอบเท่านั้น จะแก้ไขเพิ่มเติมประการใดไม่ได้
3. สมควรพิจารณาว่าการกำหนดให้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามร่างมาตรา 9 มีความจำเป็นต้องกำหนดในร่างพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ เนื่องจากมีกฎหมายหรือระเบียบกำหนดเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยเฉพาะอยู่แล้ว
กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า มาตรา 190 วรรคห้า ประกอบมาตรา 303 (3) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้มีกฎหมายว่าด้วยการกำหนดขั้นตอนและวิธีการจัดทำหนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพัน ด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือสัญญาดังกล่าว จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญของร่างกฎหมาย ดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “หนังสือสัญญา” และ “หนังสือสัญญาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพัน ด้านการค้า หรือการลงทุน อย่างมีนัยสำคัญ” เป็นต้น (ร่างมาตรา 5)
2. กำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินการจัดทำหนังสือสัญญา (หมวด 1 ร่างมาตรา 7 ถึงร่างมาตรา 16)
3. กำหนดหลักเกณฑ์การแก้ไขหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติตามหนังสือสัญญา (ร่างมาตรา 17)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการหนังสือสัญญาประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง กรรมการที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง ให้อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 18 และร่างมาตรา 22)
5. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่ง (ร่างมาตรา 19 ถึงร่างมาตรา 21)
6. กำหนดองค์ประชุมคณะกรรมการ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการและอนุกรรมการ และให้กรรมการ อนุกรรมการ และคณะทำงานได้รับค่าตอบแทนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด (ร่างมาตรา 23 ถึงร่างมาตรา 26)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2550--จบ--