คณะรัฐมนตรีรับทราบวิธีปฏิบัติทางการเงินกรณีปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และอนุมัติวงเงินทดรองราชการสำหรับส่วนราชการที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
1. สำนักงานปลัดกระทรวง และส่วนราชการระดับกรม หรือมีฐานะเทียบเท่ากรม ที่ตั้งขึ้นใหม่ และยังไม่เคยมีวงเงินทดรองราชการไว้ใช้จ่ายประจำสำนักงาน ให้มีวงเงินทดรองราชการในเบื้องต้น จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)
2. ส่วนราชการที่เปลี่ยนชื่อใหม่หรือเปลี่ยนต้นสังกัดใหม่ ซึ่งได้รับอนุมัติวงเงินทดรองราชการไว้แล้ว ให้มีวงเงินทดรองราชการจำนวนเท่าเดิม โดยขอให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือเปลี่ยนแปลงต้นสังกัดให้กระทรวงการคลังทราบด้วย
วิธีปฏิบัติทางการเงินดังกล่าวได้กำหนดให้ส่วนราชการถือปฏิบัติในเรื่องดังต่อไปนี้
1) การเป็นส่วนราชการผู้เบิก
2) การเบิกจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
3) การเบิกจ่ายค่าจ้างของลูกจ้างประจำ
4) การเบิกจ่ายค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว
5) การขอรับและการจ่ายบำเหน็จบำนาญและเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน
6) วิธีปฏิบัติในการเบิกจ่ายงบประมาณในหมวดเงินอุดหนุน
7) วิธีปฏิบัติในการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ
8) วิธีปฏิบัติในการเบิกเงินสวัสดิการ
9) การขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง
10) ค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
11) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดและทางแพ่งของส่วนราชการ
12) การดำเนินการด้านการเงินการบัญชีของส่วนราชการ
13) วิธีการลงรายการในรายละเอียดการโอนหนี้ ภาระผูกพัน เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี เงินขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน
14) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ประเภททุนหมุนเวียน
15) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินฝาก
16) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับวงเงินทดรองราชการที่ได้รับจากกระทรวงการคลัง
17) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเงินขายบิล
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพร้อมทันทีที่จะเบิกจ่ายเงินประเภทต่าง ๆ ให้แก่ส่วนราชการ หากส่วนราชการได้ดำเนินการตามวิธีการดังกล่าวข้างต้นแล้ว จากการตรวจสอบของกระทรวงการคลัง ปรากฏว่า ในขณะนี้ยังมีส่วนราชการบางแห่งยังไม่ได้ส่งบัตรตัวอย่างลายมือชื่อผู้เบิกเงินหรือเลขที่บัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้กรมบัญชีกลางทราบ ซึ่งสืบเนื่องมาจากส่วนราชการที่ปรับเปลี่ยนชื่อใหม่หรือจัดตั้งขึ้นใหม่บางแห่งยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการหรือยัง ไม่มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการกองคลังหรือหัวหน้ากองคลังซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้เบิก กรณีดังกล่าวทำให้ส่วนราชการไม่สามารถวางฎีกาเบิกเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ฎีกาค่าจ้างเพื่อเบิกเงินให้แก่ลูกจ้างหรือเบิกเงินจากคลังประเภทอื่น ๆ ได้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงสมควรเร่งรัดให้ส่วนราชการดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 ตุลาคม 45--จบ--
-สส-
1. สำนักงานปลัดกระทรวง และส่วนราชการระดับกรม หรือมีฐานะเทียบเท่ากรม ที่ตั้งขึ้นใหม่ และยังไม่เคยมีวงเงินทดรองราชการไว้ใช้จ่ายประจำสำนักงาน ให้มีวงเงินทดรองราชการในเบื้องต้น จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน)
2. ส่วนราชการที่เปลี่ยนชื่อใหม่หรือเปลี่ยนต้นสังกัดใหม่ ซึ่งได้รับอนุมัติวงเงินทดรองราชการไว้แล้ว ให้มีวงเงินทดรองราชการจำนวนเท่าเดิม โดยขอให้แจ้งการเปลี่ยนแปลงชื่อหรือเปลี่ยนแปลงต้นสังกัดให้กระทรวงการคลังทราบด้วย
วิธีปฏิบัติทางการเงินดังกล่าวได้กำหนดให้ส่วนราชการถือปฏิบัติในเรื่องดังต่อไปนี้
1) การเป็นส่วนราชการผู้เบิก
2) การเบิกจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
3) การเบิกจ่ายค่าจ้างของลูกจ้างประจำ
4) การเบิกจ่ายค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราว
5) การขอรับและการจ่ายบำเหน็จบำนาญและเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน
6) วิธีปฏิบัติในการเบิกจ่ายงบประมาณในหมวดเงินอุดหนุน
7) วิธีปฏิบัติในการเบิกค่าเช่าบ้านข้าราชการ
8) วิธีปฏิบัติในการเบิกเงินสวัสดิการ
9) การขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง
10) ค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปี
11) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดและทางแพ่งของส่วนราชการ
12) การดำเนินการด้านการเงินการบัญชีของส่วนราชการ
13) วิธีการลงรายการในรายละเอียดการโอนหนี้ ภาระผูกพัน เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี เงินขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน
14) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ประเภททุนหมุนเวียน
15) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณ ประเภทเงินฝาก
16) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับวงเงินทดรองราชการที่ได้รับจากกระทรวงการคลัง
17) วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการโอนเงินขายบิล
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพร้อมทันทีที่จะเบิกจ่ายเงินประเภทต่าง ๆ ให้แก่ส่วนราชการ หากส่วนราชการได้ดำเนินการตามวิธีการดังกล่าวข้างต้นแล้ว จากการตรวจสอบของกระทรวงการคลัง ปรากฏว่า ในขณะนี้ยังมีส่วนราชการบางแห่งยังไม่ได้ส่งบัตรตัวอย่างลายมือชื่อผู้เบิกเงินหรือเลขที่บัญชีเงินฝากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้กรมบัญชีกลางทราบ ซึ่งสืบเนื่องมาจากส่วนราชการที่ปรับเปลี่ยนชื่อใหม่หรือจัดตั้งขึ้นใหม่บางแห่งยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการหรือยัง ไม่มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการกองคลังหรือหัวหน้ากองคลังซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้เบิก กรณีดังกล่าวทำให้ส่วนราชการไม่สามารถวางฎีกาเบิกเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ฎีกาค่าจ้างเพื่อเบิกเงินให้แก่ลูกจ้างหรือเบิกเงินจากคลังประเภทอื่น ๆ ได้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงสมควรเร่งรัดให้ส่วนราชการดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 ตุลาคม 45--จบ--
-สส-