คณะรัฐมนตรีรับทราบมติคณะกรรมการกำกับเร่งรัดและติดตามการให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้า ครั้งที่ 2/2545 ดังนี้
1. อนุมัติในหลักการการใช้จ่ายเงินงบประมาณจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อเตรียมไว้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยของกระทรวงมหาดไทย ในวงเงิน1,000 ล้านบาท รวม 2 รายการ ดังนี้
1.1 วงเงิน 86,514,878 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย รวม 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร ลำปาง และกาฬสินธุ์ จำนวน 328 โครงการ ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
1.2 วงเงิน 18,800,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรขั้นต้นในพื้นที่รับผิดชอบ ตามข้อเสนอของกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ ให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบการขอความช่วยเหลือและการให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัย โดยมีหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ
2. การให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสดแทนการจัดหาปัจจัยการผลิต ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2545 นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนราษฎรและพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยที่จะต้องให้ความช่วยเหลือให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามข้อเท็จจริง รวมทั้งให้พิจารณากำหนดแนวทางและวิธีการจ่ายเงินให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยดังกล่าวให้รัดกุม โปร่งใสตรวจสอบได้ และให้เงินช่วยเหลือตกถึงมือราษฎรผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริงด้วย โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดส่งข้อมูลที่ผ่านการพิจารณาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วไปให้คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) พิจารณาตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อนส่งสำนักงบประมาณพิจารณา พร้อมทั้งให้ถือเป็นหลักการว่า ผลการพิจารณาของกลไกในระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) จะใช้เป็นกรอบและแนวทางในการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย
3. การแก้ไขปรับปรุงร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. …. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2545 ดังนี้
3.1 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. …. ตามที่เสนอ โดยให้จังหวัดมีวงเงินทดรองราชการจังหวัดละ50 ล้านบาท และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ราษฎรผู้ประสบภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉินได้รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ บูรณาการการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ เพื่อสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความรุนแรงในแต่ละพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดควรมอบอำนาจการอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการตามวงเงินที่เหมาะสมภายในวงเงินทดรองราชการ 50 ล้านบาทที่จังหวัดได้รับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ โดยให้คำนึงถึงระดับของตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่จะได้รับมอบอำนาจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเมื่อระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้
3.2 ให้เพิ่มวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สำหรับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม วงเงิน 50 ล้านบาท
3.3 ให้ปรับเปลี่ยนส่วนราชการที่มีวงเงินทดรองราชการ สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ จากสำนักงานจังหวัดเป็นที่ทำการปกครองจังหวัด ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
3.4 เห็นชอบให้แต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการกำกับฯ
4. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามผล โดยให้เพิ่มผู้แทน ธ.ก.ส. เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการและให้เพิ่มอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องในการเสนอขอความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้าด้วย
5. การขออนุมัติเงินงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อเตรียมไว้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยของกระทรวงมหาดไทย ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เห็นชอบในหลักการตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เสนอโครงการ ซึ่งผ่านการพิจารณาอนุมัติของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยแล้ว ดังนี้
5.1 การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยรวม 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ และยโสธร จำนวน 200 โครงการ วงเงิน 55,962,785 บาท
5.2 การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยรวม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง และกาฬสินธุ์ จำนวน 128 โครงการ วงเงิน 30,552,093 บาท
ทั้งนี้ ให้ทำความตกลงในรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณต่อไป
6. การขอรับการสนับสนุนงบกลางเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรขั้นต้นในพื้นที่รับผิดชอบ นั้น ได้อนุมัติงบประมาณในวงเงิน จำนวน 18,800,000 บาท จำแนกตามสังกัด ดังนี้ 1) กองบัญชาการทหารสูงสุด จำนวน 2,200,000 บาท2) กองทัพบก จำนวน 12,000,000 บาท 3) กองทัพเรือ จำนวน 1,600,000 บาท 4) กองทัพอากาศ จำนวน3,000,000 บาท
7. เห็นชอบในหลักการเรื่องการสนับสนุนเพื่อการปรับเปลี่ยนอาชีพตามความเห็นของสำนักงบประมาณโดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย
สำหรับโครงการประกันภัยพืชผล (โครงการจัดตั้งกองทุนประกันภัยทางการเกษตร) ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดติดตามการดำเนินการให้มีผลทางปฏิบัติโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 พฤศจิกายน 45--จบ--
-สส-
1. อนุมัติในหลักการการใช้จ่ายเงินงบประมาณจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อเตรียมไว้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยของกระทรวงมหาดไทย ในวงเงิน1,000 ล้านบาท รวม 2 รายการ ดังนี้
1.1 วงเงิน 86,514,878 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย รวม 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร ลำปาง และกาฬสินธุ์ จำนวน 328 โครงการ ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
1.2 วงเงิน 18,800,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรขั้นต้นในพื้นที่รับผิดชอบ ตามข้อเสนอของกระทรวงกลาโหม
นอกจากนี้ ให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบการขอความช่วยเหลือและการให้ความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัย โดยมีหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ
2. การให้ความช่วยเหลือเป็นเงินสดแทนการจัดหาปัจจัยการผลิต ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2545 นั้น ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนราษฎรและพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยที่จะต้องให้ความช่วยเหลือให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามข้อเท็จจริง รวมทั้งให้พิจารณากำหนดแนวทางและวิธีการจ่ายเงินให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยดังกล่าวให้รัดกุม โปร่งใสตรวจสอบได้ และให้เงินช่วยเหลือตกถึงมือราษฎรผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริงด้วย โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดส่งข้อมูลที่ผ่านการพิจารณาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วไปให้คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) พิจารณาตรวจสอบความถูกต้องให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่งก่อนส่งสำนักงบประมาณพิจารณา พร้อมทั้งให้ถือเป็นหลักการว่า ผลการพิจารณาของกลไกในระดับจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) จะใช้เป็นกรอบและแนวทางในการให้ความช่วยเหลือแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัย
3. การแก้ไขปรับปรุงร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. …. ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2545 ดังนี้
3.1 เห็นชอบให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. …. ตามที่เสนอ โดยให้จังหวัดมีวงเงินทดรองราชการจังหวัดละ50 ล้านบาท และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ราษฎรผู้ประสบภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉินได้รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ บูรณาการการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ เพื่อสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความรุนแรงในแต่ละพื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดควรมอบอำนาจการอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการตามวงเงินที่เหมาะสมภายในวงเงินทดรองราชการ 50 ล้านบาทที่จังหวัดได้รับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ โดยให้คำนึงถึงระดับของตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่จะได้รับมอบอำนาจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเมื่อระเบียบดังกล่าวมีผลบังคับใช้
3.2 ให้เพิ่มวงเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน สำหรับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม วงเงิน 50 ล้านบาท
3.3 ให้ปรับเปลี่ยนส่วนราชการที่มีวงเงินทดรองราชการ สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ จากสำนักงานจังหวัดเป็นที่ทำการปกครองจังหวัด ตามข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย
3.4 เห็นชอบให้แต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการเพิ่มเติมในคณะกรรมการกำกับฯ
4. เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามผล โดยให้เพิ่มผู้แทน ธ.ก.ส. เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการและให้เพิ่มอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องในการเสนอขอความช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในระยะเร่งด่วนเฉพาะหน้าด้วย
5. การขออนุมัติเงินงบกลางประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 เพื่อเตรียมไว้ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยของกระทรวงมหาดไทย ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท เห็นชอบในหลักการตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เสนอโครงการ ซึ่งผ่านการพิจารณาอนุมัติของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยแล้ว ดังนี้
5.1 การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยรวม 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสตูล หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด ขอนแก่น ชัยภูมิ และยโสธร จำนวน 200 โครงการ วงเงิน 55,962,785 บาท
5.2 การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยรวม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลำปาง และกาฬสินธุ์ จำนวน 128 โครงการ วงเงิน 30,552,093 บาท
ทั้งนี้ ให้ทำความตกลงในรายละเอียดงบประมาณค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณต่อไป
6. การขอรับการสนับสนุนงบกลางเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและบรรเทาความเดือดร้อนให้ราษฎรขั้นต้นในพื้นที่รับผิดชอบ นั้น ได้อนุมัติงบประมาณในวงเงิน จำนวน 18,800,000 บาท จำแนกตามสังกัด ดังนี้ 1) กองบัญชาการทหารสูงสุด จำนวน 2,200,000 บาท2) กองทัพบก จำนวน 12,000,000 บาท 3) กองทัพเรือ จำนวน 1,600,000 บาท 4) กองทัพอากาศ จำนวน3,000,000 บาท
7. เห็นชอบในหลักการเรื่องการสนับสนุนเพื่อการปรับเปลี่ยนอาชีพตามความเห็นของสำนักงบประมาณโดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย
สำหรับโครงการประกันภัยพืชผล (โครงการจัดตั้งกองทุนประกันภัยทางการเกษตร) ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดติดตามการดำเนินการให้มีผลทางปฏิบัติโดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 19 พฤศจิกายน 45--จบ--
-สส-