ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ปรับปรุงจำนวนเงินในสัญญาซื้อขาย จำนวนเงินการกู้ยืม ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรม และอัตราค่าธรรมเนียม)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ปรับปรุงจำนวนเงินในสัญญาซื้อขาย จำนวนเงินการกู้ยืม ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรม และอัตราค่าธรรมเนียม) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้รายงานว่า เนื่องจากบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ใช้มาเป็นเวลานาน และไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายจำนวนเงินการกู้ยืม ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรมและอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน สมควรแก้ไขปรับปรุงจำนวนที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังกล่าว
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนี้
1. ปรับปรุงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ จากเรือมีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟหรือเรือยนต์มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย แก้ไขเป็นเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย
2. ปรับปรุงจำนวนเงินในการกู้ยืม ที่ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือจากกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป แก้ไขเป็นกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไป
3. ปรับปรุงจำนวนเงินที่เจ้าสำนักต้องรับผิดในการที่ทรัพย์สินของคนเดินทางหรือแขกอาศัยสูญหายจากจำกัดไว้เพียงห้าร้อยบาท แก้ไขเป็นหนึ่งหมื่นบาท
4. ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมในการขอสำเนาหนังสือบริคณพ์สนธิและข้อบังคับของบริษัท จากไม่เกินฉบับละบาทหนึ่ง แก้ไขเป็นฉบับละสิบบาท
5. ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บเมื่อมอบใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น จากมิให้เกินห้าสิบสตางค์แก้ไขเป็นมิให้เกินสิบบาท
6. ปรับปรุงอัตราค่าคัดสำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น จากห้าสิบสตางค์ต่อร้อยคำ แก้ไขเป็นไม่เกินหน้าละสิบบาท
7. ปรับปรุงอัตราเงินค่าสำเนางบดุล จากฉบับละห้าสิบสตางค์ แก้ไขเป็นฉบับละยี่สิบบาท
8. ปรับปรุงจำนวนเงินรางวัลหรือค่าธรรมเนียมที่บุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินต้องชำระให้แก่ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย หรือตำรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นที่รับมอบทรัพย์สินหายไว้ตามลำดับ จากจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาพันบาท แก้ไขเป็นจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาสามหมื่นบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 46--จบ--
-สส-
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (ปรับปรุงจำนวนเงินในสัญญาซื้อขาย จำนวนเงินการกู้ยืม ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรม และอัตราค่าธรรมเนียม) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมได้รายงานว่า เนื่องจากบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้ใช้มาเป็นเวลานาน และไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะบทบัญญัติที่เกี่ยวกับสัญญาซื้อขายจำนวนเงินการกู้ยืม ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรมและอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน สมควรแก้ไขปรับปรุงจำนวนที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ดังกล่าว
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนี้
1. ปรับปรุงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ จากเรือมีระวางตั้งแต่หกตันขึ้นไป เรือกลไฟหรือเรือยนต์มีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย แก้ไขเป็นเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย
2. ปรับปรุงจำนวนเงินในการกู้ยืม ที่ต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือจากกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป แก้ไขเป็นกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไป
3. ปรับปรุงจำนวนเงินที่เจ้าสำนักต้องรับผิดในการที่ทรัพย์สินของคนเดินทางหรือแขกอาศัยสูญหายจากจำกัดไว้เพียงห้าร้อยบาท แก้ไขเป็นหนึ่งหมื่นบาท
4. ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมในการขอสำเนาหนังสือบริคณพ์สนธิและข้อบังคับของบริษัท จากไม่เกินฉบับละบาทหนึ่ง แก้ไขเป็นฉบับละสิบบาท
5. ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บเมื่อมอบใบหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้น จากมิให้เกินห้าสิบสตางค์แก้ไขเป็นมิให้เกินสิบบาท
6. ปรับปรุงอัตราค่าคัดสำเนาทะเบียนผู้ถือหุ้น จากห้าสิบสตางค์ต่อร้อยคำ แก้ไขเป็นไม่เกินหน้าละสิบบาท
7. ปรับปรุงอัตราเงินค่าสำเนางบดุล จากฉบับละห้าสิบสตางค์ แก้ไขเป็นฉบับละยี่สิบบาท
8. ปรับปรุงจำนวนเงินรางวัลหรือค่าธรรมเนียมที่บุคคลผู้มีสิทธิจะรับทรัพย์สินต้องชำระให้แก่ผู้เก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหาย หรือตำรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นที่รับมอบทรัพย์สินหายไว้ตามลำดับ จากจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาพันบาท แก้ไขเป็นจำนวนร้อยละสิบแห่งค่าทรัพย์สินภายในราคาสามหมื่นบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 46--จบ--
-สส-