ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมาย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 28, 2011 15:35 —มติคณะรัฐมนตรี

เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน

และปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง พ.ศ. ....

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้

ข้อเท็จจริง

กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า โดยที่มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 กำหนดให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ส่งทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยหากเป็นเงินให้ส่งเข้ากองทุนกึ่งหนึ่งและส่งให้กระทรวงการคลังอีกกึ่งหนึ่ง ถ้าเป็นทรัพย์สินอื่นให้ดำเนินการตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ

สาระสำคัญของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี

1. ให้ยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการนำทรัพย์สินที่ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินส่งให้กระทรวงการคลัง พ.ศ. 2549 (ร่างข้อ 2)

2. กำหนดคำนิยามคำว่า “ทรัพย์สิน” “พนักงานเจ้าหน้าที่” “คณะกรรมการ ปปง.” “เลขาธิการ ปปง.” และ “สำนักงาน ปปง.” (ร่างข้อ 3)

3. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนำส่งทรัพย์สินให้แก่กระทรวงการคลังกรณีศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินและคดีถึงที่สุด เช่น กำหนดให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการตามที่กำหนด เมื่อศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินและคดีถึงที่สุด และในกรณีที่เป็นทรัพย์สินที่ยังไม่อาจติดตามตัวทรัพย์สินมาได้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ปปง. เป็นผู้ดำเนินการติดตามตัวทรัพย์สินและนำมาดำเนินการตามระเบียบนี้ เป็นต้น (ร่างข้อ 4-ร่างข้อ 5)

4. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนำส่งทรัพย์สินให้แก่กระทรวงการคลังกรณีศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องหรือสั่งให้คืนทรัพย์สิน เช่น ให้ส่วนราชการที่ได้รับทรัพย์สินที่ศาลมีคำสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินและคดีถึงที่สุดไปแล้ว หรือส่วนราชการที่มีหน้าที่ในการบริหารทรัพย์สินนั้นอยู่ มีหน้าที่ส่งคืนโดยดำเนินการตามที่กำหนด และถ้าไม่อาจส่งคืนทรัพย์สินได้ ให้ส่วนราชการที่มีหน้าที่ส่งคืนเป็นผู้ชดใช้ราคาหรือค่าเสียหาย โดยให้ถือราคาหรือมูลค่าตามที่คณะกรรมการประเมินค่าเสียหายและค่าเสื่อมสภาพที่สำนักงาน ปปง. แต่งตั้งขึ้นกำหนด เป็นต้น (ร่างข้อ 6-ร่างข้อ 7)

5. กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนำส่งทรัพย์สินให้แก่กระทรวงการคลังกรณีศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินหรือสั่งให้คืนทรัพย์สินแต่คดียังไม่ถึงที่สุด เช่น กรณีศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินและไม่มีการขอทุเลาการบังคับคดีหรือมีแต่ศาลไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ในระหว่างการอุทธรณ์หรือฎีกา ให้สำนักงาน ปปง. เก็บรักษาและบริหารทรัพย์สินในคดีนั้นต่อไป กรณีศาลมีคำสั่งให้ยกคำร้องหรือสั่งให้คืนทรัพย์สินแก่เจ้าของหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินและไม่มีการขอทุเลาการบังคับคดีหรือมีแต่ศาลไม่อนุญาต ให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการส่งคืนทรัพย์สินให้เจ้าของหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินโดยเร็ว และกรณีที่ศาลมีคำสั่งภายหลังให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินและคดีถึงที่สุด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ปปง. เป็นผู้ดำเนินการติดตามทรัพย์สินนั้นและนำมาดำเนินการตามระเบียบนี้ รวมทั้งกำหนดให้กรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ปลัดกระทรวงการคลังและเลขาธิการ ปปง. ร่วมกันพิจารณาวินิจฉัยหรือมีคณะทำงานพิจารณาวินิจฉัยร่วมกัน คำวินิจฉัยให้เป็นที่สุด เป็นต้น (ร่างข้อ 8-ร่างข้อ 11)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 กันยายน 2554--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ