คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการและแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 โดยเห็นสมควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติ ดังนี้
1. รายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกผัน ให้ดำเนินการดังนี้
1.1 ให้ผ่อนผันการก่อหนี้ผูกผันเฉพาะรายการที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3 ได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546
1.2 รายการที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระเท่านั้น
1.3 ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ หรือดำเนินการตามข้อ 1.2 เรียบร้อยแล้ว และยังมีงบประมาณเหลืออยู่ ให้งบประมาณจำนวนดังกล่าวพับไป
2. รายการที่ก่อหนี้ผูกผันแล้ว และได้วางใบกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกผันก่อนสิ้นปีงบประมาณ ให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดังนี้
2.1 รายการที่ก่อหนี้ผูกผันก่อนสิ้นไตรมาสที่ 2 หรือรายการที่ได้รับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกผันถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 ต้องเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2547
2.2 รายการที่ได้รับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกผันได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546 ให้ดำเนินการดังนี้
ก. สำหรับรายการดังต่อไปนี้ต้องเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2547
1) รายการที่เบิกจ่ายจากงบอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลักษณะงบทุน
2) งบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม
3) รายการค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้างของหน่วยงานที่มีผลกระทบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม
ข. รายการที่นอกเหนือจากข้อ ก ให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดังนี้
1) ค่าครุภัณฑ์ ต้องเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2546
2) ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ให้เบิกจ่ายเงินได้ตามงวดงาน ทั้งนี้ไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคม 2547
3. วิธีการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกผันข้างต้น ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
4. หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.2 เห็นควรให้เงินงบประมาณดังกล่าวพับไป หากมีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายเงิน ให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการในปีที่ได้รับแจ้งหนี้
5. เพื่อให้การเลิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนของส่วนราขการและรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดดังกล่าว (ร้อยละ 72) ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำชับหัวหน้าส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน หากส่วนราชการใดไม่อาจดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดดังกล่าว สมควรพิจารณาถึงประสิทธิภาพของหัวหน้าส่วนราชการนั้นต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 กรกฎาคม 2546--จบ--
-พห-
1. รายการที่ยังไม่ก่อหนี้ผูกผัน ให้ดำเนินการดังนี้
1.1 ให้ผ่อนผันการก่อหนี้ผูกผันเฉพาะรายการที่อยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3 ได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546
1.2 รายการที่ไม่ได้รับการผ่อนผัน ให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อชำระหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระเท่านั้น
1.3 ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไม่มีหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ หรือดำเนินการตามข้อ 1.2 เรียบร้อยแล้ว และยังมีงบประมาณเหลืออยู่ ให้งบประมาณจำนวนดังกล่าวพับไป
2. รายการที่ก่อหนี้ผูกผันแล้ว และได้วางใบกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกผันก่อนสิ้นปีงบประมาณ ให้ดำเนินการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดังนี้
2.1 รายการที่ก่อหนี้ผูกผันก่อนสิ้นไตรมาสที่ 2 หรือรายการที่ได้รับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกผันถึงสิ้นไตรมาสที่ 3 ต้องเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2547
2.2 รายการที่ได้รับการผ่อนผันให้ก่อหนี้ผูกผันได้ถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2546 ให้ดำเนินการดังนี้
ก. สำหรับรายการดังต่อไปนี้ต้องเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2547
1) รายการที่เบิกจ่ายจากงบอุดหนุนที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลักษณะงบทุน
2) งบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม
3) รายการค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งก่อสร้างของหน่วยงานที่มีผลกระทบเนื่องจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม
ข. รายการที่นอกเหนือจากข้อ ก ให้เบิกจ่ายเงินงบประมาณ ดังนี้
1) ค่าครุภัณฑ์ ต้องเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนตุลาคม 2546
2) ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ให้เบิกจ่ายเงินได้ตามงวดงาน ทั้งนี้ไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคม 2547
3. วิธีการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีกรณีมีหนี้ผูกผันข้างต้น ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
4. หากไม่สามารถเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2.2 เห็นควรให้เงินงบประมาณดังกล่าวพับไป หากมีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายเงิน ให้เจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของส่วนราชการในปีที่ได้รับแจ้งหนี้
5. เพื่อให้การเลิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนของส่วนราขการและรัฐวิสาหกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดดังกล่าว (ร้อยละ 72) ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำชับหัวหน้าส่วนราชการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน หากส่วนราชการใดไม่อาจดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดดังกล่าว สมควรพิจารณาถึงประสิทธิภาพของหัวหน้าส่วนราชการนั้นต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 กรกฎาคม 2546--จบ--
-พห-