คณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก และเห็นชอบในหลักการการขอชดเชยภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินการโครงการตามประมาณการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
สาระสำคัญของโครงการ
1. โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัย เป็นโครงการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้านหลังแรกเป็นของตนเอง ซึ่งผู้ขอสินเชื่อต้องไม่เคยเป็นเจ้าของบ้านมาก่อน
2. คุณสมบัติผู้กู้
2.1 มีความต้องการที่อยู่อาศัยแห่งแรกเป็นของตนเอง และผู้กู้ต้องย้ายชื่อเข้าเป็น “เจ้าบ้าน” และอยู่อาศัยจริงในที่อยู่อาศัยที่ขอกู้ตามโครงการนี้
2.2 ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
2.3 ไม่มีชื่อเป็นหรือเคยเป็น “เจ้าของบ้าน” ในทะเบียนบ้านที่นำมาแสดงเป็นหลักฐานการยื่นกู้กับ ธอส. และต้องมีชื่อเป็น “ผู้อาศัย” ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 3 ปี ยกเว้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยตามทะเบียนบ้านนั้น ทั้งนี้ พนักงาน/ลูกจ้างของ ธอส. ไม่มีสิทธิ์กู้เงินตามโครงการนี้
3. วัตถุประสงค์การกู้
3.1 เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
3.2 เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
ทั้งนี้ คำว่า “อาคาร” หมายถึง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์เพื่อที่อยู่อาศัย
4. วงเงินให้กู้
4.1 ที่ดินและสิ่งก่อสร้างในวงเงินไม่เกินรายละ 1 ล้านบาท
4.2 ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินที่ดินพร้อมอาคารหรืออาคารหรือห้องชุด และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาก่อสร้าง ทั้งนี้ ไม่เกินเกณฑ์หลักประกันตามระเบียบปกติของ ธอส.
5. ระยะเวลาการกู้
ไม่เกิน 30 ปี และอายุผู้กู้หลักที่ใช้สิทธิรวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี
6. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
6.1 ปีที่ 1 — ปีที่ 3 เท่ากับ ร้อยละ 0 ต่อปี
6.2 ปีที่ 4 — ปีที่ 7 กรณีสวัสดิการเท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีรายย่อยเท่ากับ MRR
6.2 ปีที่ 8 เป็นต้นไป กรณีสวัสดิการเท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี กรณีรายย่อยเท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี
ปัจจุบัน MRR ของ ธอส. เท่ากับร้อยละ 7.25 ต่อปี
7. หลักประกัน
ที่ดินพร้อมอาคารที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนด หรือ น.ส. 3ก หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
8. เงื่อนไขอื่น
8.1 กำหนดวงเงินปล่อยกู้โครงการไม่เกิน 20,000 ล้านบาท
8.2 กรณีผู้กู้ชำระหนี้ปิดบัญชีหรือไถ่ถอนจำนองภายในระยะ 7 ปี นับจากวันทำสัญญากู้เงิน ธอส. จะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใน 3 ปีแรก เป็นอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ ธอส. ย้อนหลังนับแต่วันทำสัญญากู้เงิน
8.3 กรณีตรวจสอบพบภายหลังว่าหลักประกันที่ขอกู้ตามโครงการนี้ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยแห่งแรกของผู้กู้ ธอส. จะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใน 3 ปีแรก เป็นอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ ธอส. ย้อนหลังนับแต่วันทำสัญญากู้เงิน
8.4 การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่น ๆ รวมถึงกรณีผิดนัดชำระหนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของ ธอส.
9. กำหนดระยะเวลาดำเนินโครงการ
9.1 ผู้กู้ติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่ 7 วัน นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2555 และต้องทำนิติกรรมกับ ธอส. ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2555
9.2 ธอส. สงวนสิทธิ์ในการกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกำหนด หาก ธอส. ให้สินเชื่อเต็มวงเงินโครงการแล้ว
10.ประโยชน์จากการดำเนินโครงการ
10.1 สามารถช่วยเหลือให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองสามารถมีบ้านเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น
10.2 ช่วยสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้เข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาล
10.3 ช่วยส่งเสริมให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานในระบบเศรษฐกิจภาพรวมมากยิ่งขึ้น
11.การขอชดเชย
การดำเนินโครงการดังกล่าวจะส่งผลกระทบทางการเงินต่อผลการดำเนินงานของ ธอส. เนื่องจาก ธอส. มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และจะขาดรายรับดอกเบี้ยที่พึงได้ตามธุรกรรมปกติของ ธอส. ดังนั้น ธอส. จึงขอชดเชยจากรัฐบาล ในส่วนของดอกเบี้ยจ่ายของต้นทุนเงินในการปล่อยสินเชื่อ วงเงินไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.0 ต่อปี โดยการลดจำนวนเงินรายได้นำส่งกระทรวงการคลังในปีบัญชี 2554 จำนวน 133.33 ล้านบาท ปี 2555 จำนวน 800 ล้านบาท ปี 2556 จำนวน 800 ล้านบาท และปี 2557 จำนวน 666.67 ล้านบาท รวมเป็นการลดจำนวนเงินนำส่งกระทรวงการคลัง จำนวน 2,400 ล้านบาท ในปี 2554-2557
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ตุลาคม 2554--จบ--