เรื่อง การจัดตั้งองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve : APTERR)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอดังนี้
1. อนุมัติร่างความตกลง APTERR ฉบับที่แก้ไขนี้ และอนุมัติให้ดำเนินการต่อไปตามมติของคณะรัฐมนตรี (19 ตุลาคม 2553) พร้อมมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามความตกลง APTERR เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 11 ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
2. อนุมัติการให้สัตยาบันและหลังจากที่ได้ลงนามความตกลง APTERR แล้ว ให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำสัตยาบันสาร และยื่นสัตยาบันสารต่อเลขาธิการอาเซียนเพื่อเก็บรักษาตาม ข้อ 10 ของร่างความตกลง
3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้กับรัฐมนตรีว่าการกรทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นเป็นผู้ลงนามความตกลง APTERR
4. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขความตกลงที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้ กษ. ประสานกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. ดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. รายงานว่า
1. หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2553 ความตกลง APTERR ไม่สามารถลงนามได้ในการประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2553 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ได้ขอแก้ไขความตกลงวรรค 5 มาตรา 7 โดยให้เหตุผลว่าการให้ประเทศ+3 (+3 Countries) ซึ่งเป็นประเทศคู่เจรจาสามารถเป็นประธานการประชุม APTERR Council ด้วยนั้น จะทำให้เสียความเป็นแกนกลางของอาเซียน (ASEAN Centrality) ดังนั้นมติที่ประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 10 จึงมอบให้ SOM Leader ทุกประเทศไปร่วมกันพิจารณาแก้ไขวรรค 5 มาตรา 7
2. การพิจารณาแก้ไขข้อความวรรค 5 มาตรา 7 ได้มีการพิจารณาหลายครั้ง โดยครั้งสุดท้ายในที่ประชุม Special SOM-10th AMAF+3 ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2554 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา รวมทั้งได้มีการปรับ แก้ข้อความวรรค 6 มาตรา 7 ด้วย เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขใน วรรค 5 และบัดนี้การแก้ไขได้ข้อยุติแล้ว ซึ่งมีการปรับข้อความ
วรรค 5 มาตรา 7 The APTERR Council shall be co-chaired by an APTERR Party from the ASEAN Member States and an APTERR Party from the Plus Three Countries by annual rotation in an alphabetical order.
วรรค 6 มาตรา 7 The Council shall meet regularly at least once a year on any date to be determined by the Chairmen in consultation with members of the Council. The Chairmen may convene special meetings to discuss any urgent matters needing immediate resolutions.
3. ที่ประชุม Special SOM-10th AMAF+3 ได้พิจารณาเห็นชอบร่างสุดท้ายของความตกลง ซึ่งได้แก้ไขตาม ข้อ 2 แล้ว และเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 11 ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อให้ความเห็นชอบและลงนามความตกลงต่อไป
4. เนื่องจากแถลงการณ์ของประธานที่ประชุมสุดยอดผู้นำประเทศอาเซียน ครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2554 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ได้เร่งให้มีการลงนามเพื่อจัดตั้งองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียน+3 อย่างถาวรโดยเร็ว ภายในปี 2554 กำหนดการลงนามความตกลงฉบับแก้ไขจะมีขึ้นเมื่อเสร็จสิ้นในการประชุม AMAF+3 ครั้งที่ 11 ในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
5. กษ. ได้มีหนังสือถึง กต. เพื่อพิจารณาข้อแก้ไขตามข้อ 2 ซึ่งกรมอาเซียนและกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กต. ได้แจ้งผลการพิจารณาให้ กษ. ทราบว่าไม่มีข้อขัดข้องต่อข้อแก้ไขดังกล่าว สำหรับประเด็นมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น ร่างความตกลงน่าจะเป็นหนังสือสัญญาซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนาม แต่ไม่น่าเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
6. การแก้ไขข้อความในร่างความตกลงครั้งนี้ กษ. พิจารณาแล้วเห็นสมควรต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ และมอบหมายผู้ลงนามความตกลงใหม่อีกครั้ง เนื่องจากร่างความตกลงที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติไว้เดิมนั้นมีการเปลี่ยนแปลง กษ. จึงเห็นสมควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติร่างความตกลงดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 ตุลาคม 2554--จบ--