เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนด
พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงอัตราอากรสินค้าตามกรอบทั่วไปที่มีอัตราสูงกว่าอัตรา
ตามกรอบ WTO ให้มีอัตราอากรเท่ากัน)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 (ฉบับที่ ..) (การปรับปรุงอัตราอากรสินค้าตามกรอบทั่วไปที่มีอัตราสูงกว่าอัตราตามกรอบ WTO ให้มีอัตราอากรเท่ากัน) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอและให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง
กระทรวงการคลัง เสนอว่า ปัญหาอุปสรรคส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการลดลง เนื่องจากมีสินค้าที่อัตราอากรตามกรอบทั่วไปสูงกว่าอัตราอากรตามกรอบ WTO ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดความสับสนในการใช้สิทธิลดอัตราอากร เนื่องจากปัจจุบันประเทศต่าง ๆ เป็นสมาชิก WTO เกือบหมดแล้ว ผู้ประกอบการสามารถใช้สิทธิชำระอากรตามกรอบใดก็ได้ที่มีอัตราอากรต่ำกว่า บางครั้งในการนำเข้าผู้ประกอบการได้ใช้สิทธิตามกรอบทั่วไปชำระอากรในอัตราสูงไปแล้ว ต่อมาพบว่าอัตราอากรตามกรอบ WTO มีอัตราต่ำกว่าก็จะมาขอคืนค่าอากรภายหลัง ทำให้เกิดปัญหาข้อโต้แย้งทางกฎหมายอยู่เสมอ เพื่อลดปัญหาอุปสรรคดังกล่าว กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างอัตราอากรศุลกากรทั้งระบบ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดภายในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเพื่อรองรับนโยบายเปิดการค้าเสรี
สาระสำคัญของร่างประกาศเป็นการปรับปรุงอัตราสินค้าตามกรอบทั่วไปที่มีอัตราสูงกว่าอัตราตามกรอบ WTO ให้มีอัตราเท่ากัน ซึ่งมีสินค้าจำนวน 354 ประเภทย่อย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ตุลาคม 2554--จบ--