คณะรัฐมนตรีรับทราบการฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติและการมอบนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเพื่อพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รายงานว่า
1. สมช. ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย (มท.) (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) กระทรวงคมนาคม (คค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) และกรมประชาสัมพันธ์ได้จัดการฝึกซ้อมการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติประจำปี 2554 (Crisis Management Exercise 2011 — C- MEX 11) ระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2554 โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) เป็นประธานพิธีเปิดและมอบนโยบาย การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการฝึกการแก้ปัญหาบนโต๊ะ (Tabletop Exercise) โดยมีผู้เข้าร่วมรับการฝึกจากหน่วยงานระดับกระทรวง กรม จังหวัด รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม มูลนิธิ รวมประมาณ 250 คน การฝึกซ้อมในครั้งนี้มีความเป็นมาตามมติคณะรัฐมนตรี (20 สิงหาคม 2548, 6 พฤศจิกายน 2550, 17 พฤศจิกายน 2552) และมีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้
1.1 เพื่อทดสอบนโยบาย แผน แนวทาง มาตรการ ของหน่วยงานในการป้องกันและบรรเทาภัยในกรอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กระบวนการป้องกันและบรรเทาภัยความมั่นคง) แผนปฏิบัติการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการระดับกระทรวง
1.2 เพื่อทดสอบระบบบัญชาการเหตุการณ์ในระดับนโยบาย [การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรองรับเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณภัย (ศปฉ.ปภ.) ที่ใช้เป็นศูนย์กลางการบัญชาการของนายกรัฐมนตรี] และระดับจังหวัด (การจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจจังหวัดสระแก้ว และจังหวัดสุรินทร์) ที่ใช้เป็นศูนย์กลางการบัญชาการของผู้ว่าราชการจังหวัด
1.3 เพื่อพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติในกรอบนโยบายของรัฐบาล
2. การฝึกซ้อมในครั้งนี้ บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย โดยสามารถประมวลผลการฝึกซ้อมในภาพรวมทั้งจากการให้นโยบายในการเปิดการฝึกซ้อมของรองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) การเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิในการบรรยายและการปฏิบัติการฝึกซ้อมที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสมควรดำเนินการต่อไป เพื่อพัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
ลำดับที่ ข้อเสนอแนะ/แนวทางปฏิบัติ การดำเนินการ 1 การกำหนด แผน งบประมาณ ในแผนปฏิบัติราชการของหน่วยงานทั้ง ให้ สมช. และ มท. เป็นหน่วย ส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัดเพื่อพัฒนาระบบเตรียมความพร้อมของชาติ อำนวยการและประสานการ เพื่อให้สามารถวางแผนในเชิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและภัย ดำเนินงานในเรื่องนี้
ความมั่นคง โดยการจัดเตรียมทรัพยากร เครื่องมือ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง
กับระบบการแจ้งเตือน การสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ การกู้ภัย การ
ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย การขนส่ง การรักษาพยาบาล การพิสูจน์
เอกลักษณ์บุคคล
2 การพัฒนาระบบการแจ้งเตือนภัย โดยกำหนดแนวทางการแจ้งเตือนแก่ ให้กรมป้องกันและบรรเทาสา ประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบภัยให้มีความชัดเจน และให้การแจ้ง ธารณภัย ทก. และกรม เตือนภัยเป็นไปอย่างมีเอกภาพ ประชาสัมพันธ์กำหนดแนวทาง
เรื่องนี้
3 การพัฒนาระบบคลังข้อมูลเพื่อใช้สนับสนุนการบริหารจัดการงานสาธารณ
ภัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการนำข้อมูลทรัพยากรมาใช้ในการปฏิบัติงาน
ขณะเกิดสถานการณ์ทุกห้วงเวลา รวมทั้งให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างหน่วยงานเพื่อให้การบริหารจัดการสถานการณ์วิกฤตได้อย่างมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4 การให้ความสำคัญกับแผนปฏิบัติการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ แบบบูรณาการระดับกระทรวง 17 ด้าน ดำเนินการวางแผนขับเคลื่อน
แผนปฏิบัติการฯ ให้บังเกิดผล
อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป โดยมี
กรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยเป็นหน่วยประสาน
และบูรณาการในเรื่องนี้
5 การจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการเตรียมพร้อม” ประจำจังหวัด ตั้งแต่ในยาม ให้กรมป้องกันและบรรเทา ปกติ และเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นศูนย์ดังกล่าวสามารถแปรสภาพเป็นศูนย์ สาธารณภัยเป็นหน่วยงานกลาง อำนวยการเฉพาะกิจจังหวัดได้ทันที เพื่อให้ทุกหน่วยงานได้เตรียม ประสานการดำเนินงานเรื่องนี้ ทรัพยากรการประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัด รวมทั้ง โดยให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการ กำหนดให้มีผู้สั่งการที่ชัดเจนในกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีภารกิจนอกพื้นที่ ทำงานของกรมป้องกันและ จังหวัด บรรเทาสาธารณภัย 6 การฝึกซ้อมสถานการณ์จำลองในการบริหารวิกฤตการณ์ ให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญใน
การฝึกอบรมให้ความรู้ความ
เข้าใจและได้มีการซักซ้อม
สถานการณ์จำลองแต่ละประเภท
ภัยอย่างสม่ำเสมอ
7 การประเมินผลการฝึกซ้อม ให้หน่วยงานที่ร่วมจัดการฝึกและ
หน่วยงานที่มีผู้แทนเข้ารับการฝึก
ได้ประเมินผลการปฏิบัติของ
หน่วยเสนอคณะกรรมการ
เตรียมพร้อมแห่งชาติเพื่อจัดทำ
เป็นบทเรียนและนำไปพัฒนา
ระบบการฝึกซ้อมของหน่วยงาน
ในระยะต่อไป
ทั้งนี้ สมช. ได้มอบให้คณะนักวิชาการเป็นผู้ประเมินผลภาพรวมการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วยแล้ว
3. ผลการฝึกซ้อมดังกล่าวมีความสำคัญที่มุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานส่วนกลาง ภูมิภาค และจังหวัด เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดเตรียมแผนแนวทางปฏิบัติ รวมถึงทรัพยากรด้านต่าง ๆ ให้พร้อมเผชิญกับภัยที่เกิดขึ้นในเชิงป้องกันและบรรเทาภัยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในกรอบนโยบายความมั่นคงของรัฐ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ตุลาคม 2554--จบ--