คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอให้ประเทศไทยให้สัตยาบันกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน
ข้อเท็จจริง
กระทรวงคมนาคม (คค.) รายงานว่า ได้พิจารณาความพร้อมของประเทศไทยที่จะให้สัตยาบันกรอบความตกลงฯ แล้วเห็นว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะให้สัตยาบันกรอบความตกลงดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ากรอบความตกลงฉบับนี้จะทำให้เกิดระบบการขนส่งสินค้าทางถนนระหว่างประเทศในอาเซียนที่มีประสิทธิภาพ ประหยัดและมีความแน่นอน และเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ทั้งนี้ คค. ได้มีการเผยแพร่ รายละเอียดของความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดนในเว็บไซต์ของ คค. และกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลและแสดงข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะได้ ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญฯ แล้ว
สาระสำคัญกรอบความตกลงอาเซียนฯ
1. วัตถุประสงค์ของความตกลง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างและในกลุ่มประเทศภาคีคู่สัญญาเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของเขตการค้าเสรีอาเซียน
2. กรอบการบังคับใช้ จะใช้บังคับการขนส่งข้ามแดน ไม่ครอบคลุมถึงการขนส่งภายในประเทศ
3. การให้สิทธิ แต่ละภาคีคู่สัญญาจะให้สิทธิในการขนส่งข้ามแดนแก่ภาคีคู่สัญญาอื่น ดังนี้
3.1 อนุญาตให้ผู้ประกอบการขนส่งที่จัดตั้งขึ้นในภาคีคู่สัญญาประเทศหนึ่งสามารถขนส่งสินค้า เข้าไปยังและหรือออกจากดินแดนของภาคีคู่สัญญาประเทศอื่น
3.2 สิทธิในการบรรทุกและขนถ่ายสินค้าที่มีจุดปลายทางอยู่ในหรือมาจากภาคีคู่สัญญา
4. การปฏิบัติตามความตกลง
4.1 ภาคีคู่สัญญาที่มีความพร้อมตั้งแต่สองภาคีคู่สัญญาหรือมากกว่าสามารถเจรจาต่อรอง ตกลงและลงนามในข้อตกลง/ความตกลงในการใช้บังคับซึ่งสอดคล้องกับหลักการ ASEAN-X
4.2 พิธีสารภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดนซึ่งได้มีการอ้างถึงในความตกลงนี้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ต่อพิธีสารดังกล่าว ให้ถือว่าพิธีสารดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงนี้
4.3 แต่ละภาคีคู่สัญญา พิธีสารข้างต้นจะมีผลต่อความตกลงนี้ ในวันที่ยื่นสัตยาบันสารหรือสารยอมรับพิธีสารดังกล่าวนั้น หรือวันที่ยื่นสัตยาบันสารหรือสารยอมรับความตกลงฉบับนี้แก่เลขาธิการอาเซียน แล้วแต่ว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นหลัง
5. บทบัญญัติสุดท้าย ความตกลงนี้จะต้องมีการให้สัตยาบันหรือสารยอมรับจากภาคีคู่สัญญา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 ตุลาคม 2554--จบ--