ครูโรงเรียนเอกชนขอใช้สิทธิค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสวัสดิการค่าการศึกษาบุตร

คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลครูโรงเรียนเอกชนและครอบครัว และวงเงินช่วยเหลือค่าสวัสดิการการศึกษาบุตรของครูโรงเรียนเอกชนในปีงบประมาณ 2547 จำนวน 400 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทตามลำดับ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยในส่วนของเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล 400 ล้านบาท ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดระบบการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามที่เป็นจริง และเมื่อร่างพระราชบัญญัติการศึกษาเอกชน พ.ศ. …. ซึ่งจะกำหนดแนวทางการช่วยเหลือด้านสวัสดิการและผลประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่ครูโรงเรียนเอกชนและครอบครัวไว้ด้วยใช้บังคับแล้ว เงินส่วนที่อาจเหลืออยู่ให้ระงับการเบิกจ่าย และเห็นควรให้กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการศึกษาหาวิธีบริหารจัดการระบบกองทุนสงเคราะห์ฯ ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดโดยเร็วต่อไป พร้อมทั้งหาแนวทางการจัดสวัสดิการแก่ครูโรงเรียนเอกชนและครอบครัวให้เหมาะสมต่อไป
กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า
1. ครูโรงเรียนเอกชนจำนวน 127,034 คน และครอบครัวซึ่งเคยได้รับสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและสวัสดิการการศึกษาบุตร จากดอกผลของกองทุนสงเคราะห์ครูใหญ่ และครูโรงเรียนเอกชนเป็นเงินปีละประมาณ 500ล้านบาท และตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ดอกผลที่ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์ลดลงตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศทำให้ดอกผลที่สะสมลดลงตามลำดับ และกระทรวงศึกษาธิการได้จำกัดสิทธิการจ่ายค่ารักษาพยาบาลลดลงเหลือครอบครัวละ 20,000 บาทต่อปี แต่สภาวการณ์ยังไม่ดีขึ้น และปัจจุบันเหลือดอกผลที่สามารถจ่ายได้เพียง 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เพียง 4 เดือนเท่านั้น
2. กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเห็นว่ารัฐบาลได้จัดตั้งกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อให้สิทธิค่ารักษาพยาบาลแก่คนไทยทุกคน และมีนโยบายให้การศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี โดยไม่คิดมูลค่าแก่เด็กไทยทุกคน ดังนั้นครูโรงเรียนเอกชนและครอบครัวก็น่าจะได้รับการช่วยเหลือให้ได้รับบริการทั้งสองกรณีจากรัฐบาลเช่นกัน เพราะครูโรงเรียนเอกชนก็รับภาระหนักในการจัดการศึกษาของชาติเช่นเดียวกับครูของรัฐ จึงเห็นควรให้มีสวัสดิการต่าง ๆ เช่นเดียวกับครูของรัฐและประชาชนทั่วไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-