คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผลการดำเนินงานขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ตามที่นายธันยา หาญพล รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเสนอ ดังนี้
ด้านการบริหาร
1. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มาตรา 6 กำหนดให้องค์การฯ มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดองค์การฯ กำลังนำเสนอเพื่อประกาศกำหนดให้สำนักงานแห่งใหญ่ในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ชั้น 31 อาคารทิปโก้ ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
2. องค์การฯ จัดแบ่งส่วนงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนกลาง (สำนักงานใหญ่) แบ่งออกเป็น 5 หน่วยงานและส่วนพื้นที่พิเศษ (สำนักงานพื้นที่พิเศษ) แบ่งออกเป็น 2 หน่วยงาน ผู้ปฏิบัติในองค์การฯ แบ่งประเภทบุคลากรเป็น4 ประเภท คือ นักบริหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ลูกจ้าง นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้แต่งตั้งไปแล้ว จำนวน 6 คน
3. งบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 องค์การฯ ได้รับงบประมาณเป็นงบเงินอุดหนุนจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 30.2 ล้านบาท ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อเป็นทุนประเดิมจำนวน 20 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในระยะเริ่มแรก จำนวน 10.2 ล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถบริหารได้ 3 เดือนเท่านั้นคือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 ถึงเดือนธันวาคม 2546 ส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (9 เดือน)กำลังดำเนินการขออนุมัติจากงบกลางเช่นเดียวกัน
4. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อพท. มาตรา 33 คณะกรรมการ อพท. จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติอัตราเงินเดือนหรือประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ รวมทั้งเบี้ยประชุมคณะกรรมการ เบี้ยประชุมอนุกรรมการ และค่าตอบแทนอื่น ซึ่งเรื่องนี้ประธานคณะกรรมการบริหารฯ ได้เสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว กำลังรอมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวอยู่
5. คณะกรรมการบริหารฯ ได้ออกข้อบังคับที่จำเป็นเพื่อให้องค์การฯ มีกรอบแนวทางการบริหาร จำนวน4 ฉบับ และเพื่อให้การปฏิบัติงานภายในองค์การฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ อพท. ได้ออกระเบียบการปฏิบัติงานภายในองค์การฯ รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ
6. คณะกรรมการบริหารฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรวม 2 คณะ คือ 1) คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตพื้นที่พิเศษ 2) คณะอนุกรรมการวิชาการ และกำลังดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและการจัดทำบันทึกข้อตกลง ซึ่งตามหลักการคือในการพัฒนาพื้นที่พิเศษนั้น องค์การฯ จะต้องทำหน้าที่ประสานการใช้อำนาจอนุมัติ อนุญาต ยินยอมและอื่น ๆ หรืออาจเป็นผู้รับมอบอำนาจจากส่วนราชการอื่น ๆ มาดำเนินการเอง โดยการจัดทำข้อตกลงกับส่วนราชการที่มีอำนาจ ตามความในมาตรา 34 พระราชกฤษฎีกาองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
7. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ คณะทำงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์ภายใต้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยคณะอนุกรรมการวิชาการ สำนักนโยบายและแผน อพท. และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2546 ซึ่งสรุปวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ดังนี้
วิสัยทัศน์ บริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อความเป็นเลิศ เป็นที่ใฝ่ฝันอยากมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ยุทธศาสตร์
1) สร้างเอกภาพและบูรณาการการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ
2) สร้างความเป็นเลิศของการบริการและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว
3) สร้างความพร้อมในการแข่งขัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายคณะทำงานประมวลแผนยุทธศาสตร์เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนธันวาคม 2546
8. การจัดทำหลักเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่เพื่อประกาศเป็นเขตพื้นที่พิเศษ เพื่อให้การประกาศเขตพื้นที่พิเศษเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสามารถตอบสนองนโยบายการบริหารและพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการ อพท. จึงได้ให้ความเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติเบื้องต้นของพื้นที่ที่จะประกาศเป็นเขตพื้นที่พิเศษ ดังนี้
1) เป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นและความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคุณค่าในเชิงอนุรักษ์เพื่อประโยชน์เกื้อกูลคุณภาพทางสังคมและวิถีชีวิตของท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หรือสัญลักษณ์ที่ถือได้ว่าเป็นมรดกท้องถิ่นและเป็นมรดกทางธรรมชาติ สมควรอนุรักษ์เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าอย่างยั่งยืน
2) เป็นพื้นที่ที่มีความล้ำค่าทางอารยธรรม วัฒนธรรม และ/หรือศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น สมควรอนุรักษ์หรือพัฒนาให้คงคุณค่าต่อกิจการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
3) เป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ และ/หรือเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างเอกลักษณ์พิเศษให้เกิดแรงดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพิเศษได้
4) เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลมีนโยบายจะพัฒนาเป็นการเฉพาะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
5) เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม ควรที่ อพท. จะเข้าไปกำกับดูแลภายใต้การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐโดยวิธีการประสานงานแบบบูรณาการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน
6) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการแข่งขัน
ด้านการประกาศเขตพื้นที่พิเศษ
1. การจัดเตรียมการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศพื้นที่พิเศษแห่งแรกคือหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดตราด โดยในเบื้องต้นได้มีการกำหนดเขตพื้นที่ที่จะเป็นพื้นที่พิเศษ และในการเตรียมการประกาศพื้นที่พิเศษได้ดำเนินการ ดังนี้
1) เตรียมแผนการดำเนินงานเชิงอนุรักษ์ โดยให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน โดยในระยะแรกได้กำหนดเกณฑ์ทางสังคมเพื่อให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดแนวทางการพัฒนาของตนเอง โดยไม่ขัดแย้งกับกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2) เริ่มต้นกระบวนการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและออกเอกสารสิทธิในที่ดินให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้าง และพื้นที่เชื่อมโยงได้เรียบร้อยเป็นต้นแบบของการจัดระเบียบการใช้ที่ดินในเขตพื้นที่พิเศษแห่งอื่น ๆ ต่อไป
3) ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ในการเตรียมแผนอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล และขยายเขตอุทยานแห่งชาติให้ครอบคลุมทั้งหมู่เกาะช้างทั้ง 52 เกาะ
4) ประสานงานกับกรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงอย่างเป็นระบบและมีความยั่งยืน โดยเฉพาะส่งเสริมและสนับสนุนการดำรงชีพที่เรียกว่าวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่
5) ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง เพื่อเป็นกรอบแผนผังการพัฒนาซึ่งประกอบด้วยสาระสำคัญคือการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการคมนาคมขนส่ง การกำจัดขยะและน้ำเสีย เป็นต้น ในการนี้ อพท. จะนำมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดแผนปฏิบัติการพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงต่อไป
2. ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. หรือ NECTEC) ในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวและแผนบริการข้อมูลข่าวสาร โดยดำเนินการไปแล้ว คือ
1) จัดตั้งศูนย์บริการสารสนเทศการท่องเที่ยวเกาะช้าง 1 แห่ง จากชุมชนศักยภาพ 4 แห่ง โดยการคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานมีผลผลิตด้านศิลปหัตถกรรม เกษตรกรรม การแปรรูปผลิตภัณฑ์และการบริการการท่องเที่ยวที่มีบุคลกรท้องถิ่นให้การสนับสนุนชุมชนที่ได้รับการคัดเลือก 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนคลองสนชุมชนคลองพร้าว ชุมชนบางเบ้า และชุมชนสลักเพชร
2) จัดทำเว็บไซด์ของศูนย์บริการสารสนเทศการท่องเที่ยวหมู่เกาะช้าง และพื้นที่เชื่อมโยง www.kohghang.or.th โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้คือ ข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไปเกี่ยวกับเกาะช้าง ข่าวประชาสัมพันธ์เกาะช้างแผนที่หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง แสดงแหล่งท่องเที่ยว สถานบริการ การเดินทาง หน่วยงานและสถานที่ต่าง ๆ โรงแรมและที่พัก กิจกรรมท่องเที่ยว สมุดภาพ โครงการพัฒนาหมู่เกาะช้าง ข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือ การบริหารภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจ พยากรณ์อากาศ เว็บไซด์ที่เกี่ยวข้อง นอกจากการให้ข้อมูลข่าวสารแล้วยังมีการให้บริการอื่นประกอบ อาทิ การจองที่พัก เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-
ด้านการบริหาร
1. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มาตรา 6 กำหนดให้องค์การฯ มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือจังหวัดอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดองค์การฯ กำลังนำเสนอเพื่อประกาศกำหนดให้สำนักงานแห่งใหญ่ในกรุงเทพมหานครอยู่ที่ชั้น 31 อาคารทิปโก้ ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
2. องค์การฯ จัดแบ่งส่วนงานออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนกลาง (สำนักงานใหญ่) แบ่งออกเป็น 5 หน่วยงานและส่วนพื้นที่พิเศษ (สำนักงานพื้นที่พิเศษ) แบ่งออกเป็น 2 หน่วยงาน ผู้ปฏิบัติในองค์การฯ แบ่งประเภทบุคลากรเป็น4 ประเภท คือ นักบริหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ลูกจ้าง นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้แต่งตั้งไปแล้ว จำนวน 6 คน
3. งบประมาณ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 องค์การฯ ได้รับงบประมาณเป็นงบเงินอุดหนุนจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 30.2 ล้านบาท ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป เพื่อเป็นทุนประเดิมจำนวน 20 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในระยะเริ่มแรก จำนวน 10.2 ล้านบาท เงินจำนวนนี้สามารถบริหารได้ 3 เดือนเท่านั้นคือตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 ถึงเดือนธันวาคม 2546 ส่วนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 (9 เดือน)กำลังดำเนินการขออนุมัติจากงบกลางเช่นเดียวกัน
4. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อพท. มาตรา 33 คณะกรรมการ อพท. จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติอัตราเงินเดือนหรือประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ รวมทั้งเบี้ยประชุมคณะกรรมการ เบี้ยประชุมอนุกรรมการ และค่าตอบแทนอื่น ซึ่งเรื่องนี้ประธานคณะกรรมการบริหารฯ ได้เสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว กำลังรอมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวอยู่
5. คณะกรรมการบริหารฯ ได้ออกข้อบังคับที่จำเป็นเพื่อให้องค์การฯ มีกรอบแนวทางการบริหาร จำนวน4 ฉบับ และเพื่อให้การปฏิบัติงานภายในองค์การฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ อพท. ได้ออกระเบียบการปฏิบัติงานภายในองค์การฯ รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ
6. คณะกรรมการบริหารฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรวม 2 คณะ คือ 1) คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตพื้นที่พิเศษ 2) คณะอนุกรรมการวิชาการ และกำลังดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและการจัดทำบันทึกข้อตกลง ซึ่งตามหลักการคือในการพัฒนาพื้นที่พิเศษนั้น องค์การฯ จะต้องทำหน้าที่ประสานการใช้อำนาจอนุมัติ อนุญาต ยินยอมและอื่น ๆ หรืออาจเป็นผู้รับมอบอำนาจจากส่วนราชการอื่น ๆ มาดำเนินการเอง โดยการจัดทำข้อตกลงกับส่วนราชการที่มีอำนาจ ตามความในมาตรา 34 พระราชกฤษฎีกาองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
7. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ คณะทำงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์ภายใต้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยคณะอนุกรรมการวิชาการ สำนักนโยบายและแผน อพท. และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันจัดทำแผนยุทธศาสตร์ และคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2546 ซึ่งสรุปวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ดังนี้
วิสัยทัศน์ บริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อความเป็นเลิศ เป็นที่ใฝ่ฝันอยากมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ยุทธศาสตร์
1) สร้างเอกภาพและบูรณาการการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ
2) สร้างความเป็นเลิศของการบริการและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว
3) สร้างความพร้อมในการแข่งขัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายคณะทำงานประมวลแผนยุทธศาสตร์เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีภายในเดือนธันวาคม 2546
8. การจัดทำหลักเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่เพื่อประกาศเป็นเขตพื้นที่พิเศษ เพื่อให้การประกาศเขตพื้นที่พิเศษเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และสามารถตอบสนองนโยบายการบริหารและพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการ อพท. จึงได้ให้ความเห็นชอบกำหนดหลักเกณฑ์และคุณสมบัติเบื้องต้นของพื้นที่ที่จะประกาศเป็นเขตพื้นที่พิเศษ ดังนี้
1) เป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นและความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีคุณค่าในเชิงอนุรักษ์เพื่อประโยชน์เกื้อกูลคุณภาพทางสังคมและวิถีชีวิตของท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หรือสัญลักษณ์ที่ถือได้ว่าเป็นมรดกท้องถิ่นและเป็นมรดกทางธรรมชาติ สมควรอนุรักษ์เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าอย่างยั่งยืน
2) เป็นพื้นที่ที่มีความล้ำค่าทางอารยธรรม วัฒนธรรม และ/หรือศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น สมควรอนุรักษ์หรือพัฒนาให้คงคุณค่าต่อกิจการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
3) เป็นพื้นที่ที่มีเอกลักษณ์พิเศษ และ/หรือเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างเอกลักษณ์พิเศษให้เกิดแรงดึงดูดต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวพิเศษได้
4) เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลมีนโยบายจะพัฒนาเป็นการเฉพาะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทำให้เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
5) เป็นพื้นที่ที่เหมาะสม ควรที่ อพท. จะเข้าไปกำกับดูแลภายใต้การดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐโดยวิธีการประสานงานแบบบูรณาการเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน
6) เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางด้านการแข่งขัน
ด้านการประกาศเขตพื้นที่พิเศษ
1. การจัดเตรียมการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศพื้นที่พิเศษแห่งแรกคือหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง จังหวัดตราด โดยในเบื้องต้นได้มีการกำหนดเขตพื้นที่ที่จะเป็นพื้นที่พิเศษ และในการเตรียมการประกาศพื้นที่พิเศษได้ดำเนินการ ดังนี้
1) เตรียมแผนการดำเนินงานเชิงอนุรักษ์ โดยให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน โดยในระยะแรกได้กำหนดเกณฑ์ทางสังคมเพื่อให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดแนวทางการพัฒนาของตนเอง โดยไม่ขัดแย้งกับกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
2) เริ่มต้นกระบวนการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ เพื่อให้สามารถตรวจสอบและออกเอกสารสิทธิในที่ดินให้แก่ประชาชนในเขตพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้าง และพื้นที่เชื่อมโยงได้เรียบร้อยเป็นต้นแบบของการจัดระเบียบการใช้ที่ดินในเขตพื้นที่พิเศษแห่งอื่น ๆ ต่อไป
3) ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ในการเตรียมแผนอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเล และขยายเขตอุทยานแห่งชาติให้ครอบคลุมทั้งหมู่เกาะช้างทั้ง 52 เกาะ
4) ประสานงานกับกรมประมง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงอย่างเป็นระบบและมีความยั่งยืน โดยเฉพาะส่งเสริมและสนับสนุนการดำรงชีพที่เรียกว่าวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่
5) ประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง เพื่อเป็นกรอบแผนผังการพัฒนาซึ่งประกอบด้วยสาระสำคัญคือการกำหนดเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินและการพัฒนาโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการคมนาคมขนส่ง การกำจัดขยะและน้ำเสีย เป็นต้น ในการนี้ อพท. จะนำมาใช้ประโยชน์ในการกำหนดแผนปฏิบัติการพัฒนาพื้นที่หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงต่อไป
2. ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. หรือ NECTEC) ในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวและแผนบริการข้อมูลข่าวสาร โดยดำเนินการไปแล้ว คือ
1) จัดตั้งศูนย์บริการสารสนเทศการท่องเที่ยวเกาะช้าง 1 แห่ง จากชุมชนศักยภาพ 4 แห่ง โดยการคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐานมีผลผลิตด้านศิลปหัตถกรรม เกษตรกรรม การแปรรูปผลิตภัณฑ์และการบริการการท่องเที่ยวที่มีบุคลกรท้องถิ่นให้การสนับสนุนชุมชนที่ได้รับการคัดเลือก 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนคลองสนชุมชนคลองพร้าว ชุมชนบางเบ้า และชุมชนสลักเพชร
2) จัดทำเว็บไซด์ของศูนย์บริการสารสนเทศการท่องเที่ยวหมู่เกาะช้าง และพื้นที่เชื่อมโยง www.kohghang.or.th โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้คือ ข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไปเกี่ยวกับเกาะช้าง ข่าวประชาสัมพันธ์เกาะช้างแผนที่หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง แสดงแหล่งท่องเที่ยว สถานบริการ การเดินทาง หน่วยงานและสถานที่ต่าง ๆ โรงแรมและที่พัก กิจกรรมท่องเที่ยว สมุดภาพ โครงการพัฒนาหมู่เกาะช้าง ข้อมูลทางโทรศัพท์มือถือ การบริหารภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจ พยากรณ์อากาศ เว็บไซด์ที่เกี่ยวข้อง นอกจากการให้ข้อมูลข่าวสารแล้วยังมีการให้บริการอื่นประกอบ อาทิ การจองที่พัก เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-