คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตามมาตรา 13(2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีศักยภาพ มีความพร้อมในการบริหารจัดการ และต้องเข้าแข่งขันกับภาคเอกชน ต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจำเป็นต้องมีค่าจ้างและแรงจูงใจที่สูง ซึ่งคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินได้เอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2546 ซึ่งคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินได้เองตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ และเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 13(2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่า บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์เกี่ยวกับการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินได้เอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2546 ซึ่งคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2546 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินได้เองตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ และเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา 13(2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 13 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-