คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดประเภทและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้เพื่อประกอบกิจการเป็นสถานบริการ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. เพิ่มบทอาศัยอำนาจในมาตรา 8(3) (12) (13) มาตรา 32(2) มาตรา 32 ทวิ และมาตรา 46 วรรคหนึ่ง ให้สอดคล้องกับการแก้ไขเนื้อหาในร่างกฎกระทรวงฯ และเพิ่มบทจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามมาตรา 42 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเพื่อให้สอดคล้องกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
2. แก้ไขเพิ่มเติมและปรับปรุงถ้อยคำในบทนิยามให้มีความชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น ได้แก่คำว่า “สถานบริการ” “พื้นที่สถานบริการ” “ช่องทางเดิน” “พื้นที่บริการ” และ “สถาบันทดสอบ” (ร่างข้อ 2)
3. กำหนดให้สถานบริการแบ่งออกตามขนาดพื้นที่บริการเป็น 6 ประเภท ตามขนาดพื้นที่บริการ (ร่างข้อ 4)
4. กำหนดให้มีแบบแปลนระบบไฟฟ้าประกอบการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารสถานบริการ และจัดให้มีการติดตั้งแบบแปลนผังของอาคารซึ่งแสดงตำแหน่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงต่าง ๆ ทางหนีไฟ ทางออก และประตูทางออก ให้ชัดเจน (ร่างข้อ 7 — ร่างข้อ 8)
5. กำหนดวัสดุของอาคาร เกี่ยวกับโครงสร้างหลักและโครงหลังคา ผนังที่กั้นวัสดุตกแต่งผิวหนังและฝ้าเพดาน การใช้ฉนวนกันความร้อน และผนังภายนอกประตู หน้าต่าง (ร่างข้อ 11 — ร่างข้อ 17)
6. กำหนดให้สถานบริการต้องมีระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้าสำรอง (ร่างข้อ 18 และร่างข้อ 22)
7. กำหนดให้สถานบริการแต่ละประเภทต้องจัดให้มีระบบป้องกันเพลิงไหม้ ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ และติดตั้งระบบควบคุมการแพร่กระจายของควัน (ร่างข้อ 23 — ร่างข้อ 27)
8. กำหนดให้ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการหรือเจ้าของอาคารที่ใช้ตั้งสถานบริการจัดให้มีผู้ดูแลระบบความปลอดภัยและการป้องกันอันตราย และจัดให้มีผู้ตรวจสอบอาคาร ตรวจสอบวัสดุที่ใช้ภายในสถานบริการ (ร่างข้อ 46 — ร่างข้อ 47)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554--จบ--