คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแก้ไขให้เป็นไปตามประเด็นอภิปรายตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สำหรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นควรแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฯ ดังนี้
1. ในบันทึกหลักการและเหตุผล ซึ่งใช้คำว่า "การปฏิรูประบบราชการ" ให้แก้ไขเป็น "การพัฒนาระบบราชการ" เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
2. ร่างมาตรา 38 บัญญัติให้มีคณะกรรมการบริหารกิจการด้านนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยปลัดทบวงมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการ แต่ในปัจจุบันไม่มีทบวงมหาวิทยาลัยแล้ว จึงเห็นควรตัด "ปลัดทบวงมหาวิทยาลัย"ออก และให้เพิ่ม "อัยการสูงสุด" ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับนิติวิทยาศาสตร์และกระบวนการยุติธรรมเข้าไปแทน
3. ร่างมาตรา 44 ได้กำหนดบทเฉพาะกาลให้มีคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหา สำหรับการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามร่างมาตรา 5 ประกอบด้วย ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัยร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเห็นควรตัด"ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัย" ออกจากการเป็นกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหาในร่างมาตรา 44 เช่นเดียวกับร่างมาตรา 38
ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. …. มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดบทนิยาม "นิติวิทยาศาสตร์" "สถานปฏิบัติการ" "ผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์"
2. ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ และองค์ประกอบของคณะกรรมการ
3. กำหนดคุณสมบัติของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และองค์ประชุม
4. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐาน
5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
6. กำหนดคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์
7. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติงานและให้ความเห็นตามหลักวิชาการ
8. บุคคลผู้ได้รับหรืออาจได้รับความเสียหายเพราะเหตุหน่วยงานประพฤติผิดมาตรการ หรือเพราะการประพฤติผิดหลักเกณฑ์มาตรฐานหรือระเบียบในการปฏิบัติงานนิติวิทยาศาสตร์มีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนหน่วยงานของรัฐนั้นเป็นหนังสือต่อสถาบัน และให้สถาบันเสนอเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว และคณะกรรมการจะต้องดำเนินการสอบสวนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
9. กำหนดค่าตอบแทนของผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้ได้รับค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราตามข้อบังคับโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และหากได้รับค่าตอบแทนในลักษณะเดียวกันตามกฎหมายอื่นแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัตินี้อีก
10. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกิจการด้านนิติวิทยาศาสตร์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 8 คน และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารโดยมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการบริหาร
11. กำหนดบทกำหนดโทษของผู้ไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุตามที่คณะกรรมการมาตรฐานหรือคณะอนุกรรมการสอบสวนสั่ง
12. กำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหาจำนวนเจ็ดคน เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกกรรมการสรรหาจำนวนเก้าคน แล้วเสนอให้รัฐมนตรีแต่งตั้ง และให้คณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่สรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 5 และให้เสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-
สำหรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นควรแก้ไขร่างพระราชบัญญัติฯ ดังนี้
1. ในบันทึกหลักการและเหตุผล ซึ่งใช้คำว่า "การปฏิรูประบบราชการ" ให้แก้ไขเป็น "การพัฒนาระบบราชการ" เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
2. ร่างมาตรา 38 บัญญัติให้มีคณะกรรมการบริหารกิจการด้านนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วยปลัดทบวงมหาวิทยาลัย เป็นกรรมการ แต่ในปัจจุบันไม่มีทบวงมหาวิทยาลัยแล้ว จึงเห็นควรตัด "ปลัดทบวงมหาวิทยาลัย"ออก และให้เพิ่ม "อัยการสูงสุด" ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องกับนิติวิทยาศาสตร์และกระบวนการยุติธรรมเข้าไปแทน
3. ร่างมาตรา 44 ได้กำหนดบทเฉพาะกาลให้มีคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหา สำหรับการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามร่างมาตรา 5 ประกอบด้วย ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัยร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเห็นควรตัด"ผู้แทนทบวงมหาวิทยาลัย" ออกจากการเป็นกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหาในร่างมาตรา 44 เช่นเดียวกับร่างมาตรา 38
ร่างพระราชบัญญัติมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ พ.ศ. …. มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดบทนิยาม "นิติวิทยาศาสตร์" "สถานปฏิบัติการ" "ผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์"
2. ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ และองค์ประกอบของคณะกรรมการ
3. กำหนดคุณสมบัติของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และองค์ประชุม
4. กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐาน
5. กำหนดอำนาจหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
6. กำหนดคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์
7. กำหนดให้ผู้ปฏิบัติงานด้านวิทยาศาสตร์มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติงานและให้ความเห็นตามหลักวิชาการ
8. บุคคลผู้ได้รับหรืออาจได้รับความเสียหายเพราะเหตุหน่วยงานประพฤติผิดมาตรการ หรือเพราะการประพฤติผิดหลักเกณฑ์มาตรฐานหรือระเบียบในการปฏิบัติงานนิติวิทยาศาสตร์มีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนหน่วยงานของรัฐนั้นเป็นหนังสือต่อสถาบัน และให้สถาบันเสนอเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว และคณะกรรมการจะต้องดำเนินการสอบสวนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
9. กำหนดค่าตอบแทนของผู้ปฏิบัติงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้ได้รับค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราตามข้อบังคับโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง และหากได้รับค่าตอบแทนในลักษณะเดียวกันตามกฎหมายอื่นแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามพระราชบัญญัตินี้อีก
10. กำหนดองค์ประกอบของคณะกรรมการบริหารกิจการด้านนิติวิทยาศาสตร์ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 8 คน และกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารโดยมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการบริหาร
11. กำหนดบทกำหนดโทษของผู้ไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุตามที่คณะกรรมการมาตรฐานหรือคณะอนุกรรมการสอบสวนสั่ง
12. กำหนดให้มีคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการสรรหาจำนวนเจ็ดคน เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกกรรมการสรรหาจำนวนเก้าคน แล้วเสนอให้รัฐมนตรีแต่งตั้ง และให้คณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่สรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 5 และให้เสนอคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-