คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผลความก้าวหน้าการดำเนินการรับจดทะเบียนแก้ปัญหาสังคมและความยากจนเชิงบูรณาการ ครั้งที่ 7 ประจำวันอังคารที่ 20 มกราคม 2547 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
1. ผลการจดทะเบียน ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงวันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2547
มีผู้มาจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 3,039,484 คน ปัญหารวมทั้งสิ้น 4,429,674 ปัญหา แบ่งเป็น 3 พื้นที่ดำเนินการ ได้แก่
1.1 พื้นที่ 8 จังหวัดนำร่อง (จังหวัดชลบุรี นครปฐม พิษณุโลก เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และสงขลา) รับจดทะเบียนทดสอบแบบในวันที่ 4 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2546 - 19 มกราคม 2547 รวม 38 วัน
มีผู้มาจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 923,026 คิดเป็นร้อยละ 8.62 ของประชากรทั้ง 8 จังหวัด ปัญหา รวมทั้งสิ้น 1,326,961 จังหวัดที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา 312,794 คน คิดเป็นร้อยละ 12.18 ของประชากรทั้งจังหวัด
ปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงลำดับดังนี้
1) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 540,375 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 40.72 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
2) ปัญหาที่ดินทำกิน 520,271 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 39.21 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
3) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 235,865 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 17.77 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
4) ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 15,275 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.15 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
5) ปัญหาถูกหลอกลวง 13,930 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.05 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
6) ปัญหาคนเร่ร่อน 743 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
7) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 502 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.04 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
1.2 พื้นที่ 67 จังหวัดที่เหลือ รับจดทะเบียนทดสอบแบบในวันที่ 26 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 5 - 19 มกราคม 2547 รวม 14 วัน มีผู้มาจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 2,010,013 คน ปัญหา รวมทั้งสิ้น 2,974,882 ปัญหา
- จังหวัดที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด เรียง 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1) จังหวัดบุรีรัมย์ 111,019 คน 2) จังหวัดอุบลราชธานี 110,988 คน 3) จังหวัดสุรินทร์ 84,457 คน 4) จังหวัดขอนแก่น 79,649 คน 5) จังหวัดศรีสะเกษ 73,367 คน
- จังหวัดที่มีผู้มาจดทะเบียนน้อยที่สุด เรียง 5 ลำดับท้าย ดังนี้ 1) จังหวัดสมุทรสงคราม 3,182 คน 2) จังหวัดภูเก็ต 6,956 คน 3) จังหวัดสิงห์บุรี 9,355 คน 4) จังหวัดอ่างทอง 10,062 คน 5) จังหวัดสมุทรสาคร 11,044 คน
- ปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงตามลำดับ ดังนี้ 1) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 1,359,108 คิดเป็นร้อยละ 45.68 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 2) ปัญหาที่ดินทำกิน 1,125,400 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 37.83 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 3) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 449,049 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 15.09 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 4) ปัญหาถูกหลอกลวง 24,272 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.82 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 5) ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 12,967 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.44 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 6) ปัญหาคนเร่ร่อน 2,368 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 7) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 1,691 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.06 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
1.3 ในกรุงเทพมหานคร รับจดทะเบียนทดสอบในวันที่ 26 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 5 - 19 มกราคม 2547 รวม 14 วัน มีผู้มาจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 106,445 คน ปัญหา รวมทั้งสิ้น 127,831 ปัญหา และปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงลำดับ ดังนี้ 1) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 78,921 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 61.74 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 2) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 42,790 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 33.47 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 3) ปัญหาที่ดินทำกิน 3,662 ปัญหาคิดเป็นร้อยละ 2.86 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 4)ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 1,460 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.14 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 5) ปัญหาถูกหลอกลวง 778 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.61 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 6) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 115 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.09 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 7)ปัญหาคนเร่ร่อน 105 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
2. การจัดสรรงบประมาณ
2.1 สำนักงบประมาณแจ้งการอนุมัติงบประมาณ ประจำปี 2547 (งบกลาง) รายากรเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่กรมการปกครองทั้งสิ้น 529,593,080 บาท แยกเป็นงบบุคลากร 356,013,000 บาท และงบดำเนินการ 173,480,080 บาท
2.2 กรมการปกครองได้โอนงบประมาณ ไปตั้งจ่ายที่คลังจังหวัด และคลังจังหวัด ณ อำเภอ เรียบร้อยแล้ว โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรงบประมาณจังหวัดละ 26,200 บาท ส่วนอำเภอ/กิ่งอำเภอ เฉลี่ยเป็นงบดำเนินการแห่งละประมาณ 37,321 บาท และงบลูกจ้าง ฯ แห่งละประมาณ 196,200 บาท
2.3 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทยได้มอบให้กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยเบิกจ่ายแทน โดยจัดสรรงบประมาณให้ทั้งสิ้น 17,545,000 บาท แยกเป็นงบบุคลากร 16,240,000 บาทและดำเนินการ 1,305,000 และจะดำเนินการจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เหลือให้อีกในโอกาสต่อไป
3. การปรับระยะเวลาการจดทะเบียน
ตามที่นายกรัฐมนตรีมีบัญชาในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 13 มกราคม 2547 ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับระยะเวลาการจดทะเบียนให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ในการนี้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า การปรับระยะเวลาการจดทะเบียนจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน จึงได้ปรับระยะเวลาในการจดทะเบียน โดยใน 8 จังหวัดนำร่อง ให้แล้วเสร็จในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 และใน 67 จังหวัดที่เหลือ/กรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2547 โดยได้ประสานการปฏิบัติกับจังหวัดที่มีจำนวนประชากรจำนวนมากเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว เช่น จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ เป็นต้น ได้รับการยืนยันว่าสามารถปรับแผนการรับจดทะเบียนให้แล้วเสร็จได้ จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการแล้ว และให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงด้วย
4. ปัญหา - อุปสรรค
กระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้รับรายงานปัญหา-อุปสรรค ในการดำเนินงานแต่อย่างใด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-
1. ผลการจดทะเบียน ตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนถึงวันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2547
มีผู้มาจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 3,039,484 คน ปัญหารวมทั้งสิ้น 4,429,674 ปัญหา แบ่งเป็น 3 พื้นที่ดำเนินการ ได้แก่
1.1 พื้นที่ 8 จังหวัดนำร่อง (จังหวัดชลบุรี นครปฐม พิษณุโลก เชียงใหม่ อุดรธานี นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี และสงขลา) รับจดทะเบียนทดสอบแบบในวันที่ 4 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 6 ธันวาคม 2546 - 19 มกราคม 2547 รวม 38 วัน
มีผู้มาจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 923,026 คิดเป็นร้อยละ 8.62 ของประชากรทั้ง 8 จังหวัด ปัญหา รวมทั้งสิ้น 1,326,961 จังหวัดที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา 312,794 คน คิดเป็นร้อยละ 12.18 ของประชากรทั้งจังหวัด
ปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงลำดับดังนี้
1) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 540,375 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 40.72 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
2) ปัญหาที่ดินทำกิน 520,271 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 39.21 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
3) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 235,865 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 17.77 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
4) ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 15,275 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.15 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
5) ปัญหาถูกหลอกลวง 13,930 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.05 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
6) ปัญหาคนเร่ร่อน 743 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
7) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 502 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.04 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
1.2 พื้นที่ 67 จังหวัดที่เหลือ รับจดทะเบียนทดสอบแบบในวันที่ 26 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 5 - 19 มกราคม 2547 รวม 14 วัน มีผู้มาจดทะเบียน รวมทั้งสิ้น 2,010,013 คน ปัญหา รวมทั้งสิ้น 2,974,882 ปัญหา
- จังหวัดที่ผู้มาจดทะเบียนมากที่สุด เรียง 5 ลำดับแรก ดังนี้ 1) จังหวัดบุรีรัมย์ 111,019 คน 2) จังหวัดอุบลราชธานี 110,988 คน 3) จังหวัดสุรินทร์ 84,457 คน 4) จังหวัดขอนแก่น 79,649 คน 5) จังหวัดศรีสะเกษ 73,367 คน
- จังหวัดที่มีผู้มาจดทะเบียนน้อยที่สุด เรียง 5 ลำดับท้าย ดังนี้ 1) จังหวัดสมุทรสงคราม 3,182 คน 2) จังหวัดภูเก็ต 6,956 คน 3) จังหวัดสิงห์บุรี 9,355 คน 4) จังหวัดอ่างทอง 10,062 คน 5) จังหวัดสมุทรสาคร 11,044 คน
- ปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงตามลำดับ ดังนี้ 1) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 1,359,108 คิดเป็นร้อยละ 45.68 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 2) ปัญหาที่ดินทำกิน 1,125,400 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 37.83 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 3) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 449,049 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 15.09 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 4) ปัญหาถูกหลอกลวง 24,272 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.82 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 5) ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 12,967 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.44 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 6) ปัญหาคนเร่ร่อน 2,368 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 7) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 1,691 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.06 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
1.3 ในกรุงเทพมหานคร รับจดทะเบียนทดสอบในวันที่ 26 ธันวาคม 2546 และรับจดทะเบียนระหว่างวันที่ 5 - 19 มกราคม 2547 รวม 14 วัน มีผู้มาจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 106,445 คน ปัญหา รวมทั้งสิ้น 127,831 ปัญหา และปัญหาที่มีผู้มาจดทะเบียนมากที่สุดเรียงลำดับ ดังนี้ 1) ปัญหาคนจนไม่มีที่อยู่อาศัย 78,921 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 61.74 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 2) ปัญหาหนี้สินภาคประชาชน 42,790 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 33.47 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 3) ปัญหาที่ดินทำกิน 3,662 ปัญหาคิดเป็นร้อยละ 2.86 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 4)ปัญหานักเรียน/นักศึกษาต้องการทำงาน 1,460 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 1.14 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 5) ปัญหาถูกหลอกลวง 778 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.61 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 6) ปัญหาการประกอบอาชีพผิดกฎหมาย 115 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.09 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด 7)ปัญหาคนเร่ร่อน 105 ปัญหา คิดเป็นร้อยละ 0.08 ของจำนวนปัญหาทั้งหมด
2. การจัดสรรงบประมาณ
2.1 สำนักงบประมาณแจ้งการอนุมัติงบประมาณ ประจำปี 2547 (งบกลาง) รายากรเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้แก่กรมการปกครองทั้งสิ้น 529,593,080 บาท แยกเป็นงบบุคลากร 356,013,000 บาท และงบดำเนินการ 173,480,080 บาท
2.2 กรมการปกครองได้โอนงบประมาณ ไปตั้งจ่ายที่คลังจังหวัด และคลังจังหวัด ณ อำเภอ เรียบร้อยแล้ว โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละจังหวัดได้รับการจัดสรรงบประมาณจังหวัดละ 26,200 บาท ส่วนอำเภอ/กิ่งอำเภอ เฉลี่ยเป็นงบดำเนินการแห่งละประมาณ 37,321 บาท และงบลูกจ้าง ฯ แห่งละประมาณ 196,200 บาท
2.3 ในส่วนของกรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทยได้มอบให้กรุงเทพมหานครเป็นหน่วยเบิกจ่ายแทน โดยจัดสรรงบประมาณให้ทั้งสิ้น 17,545,000 บาท แยกเป็นงบบุคลากร 16,240,000 บาทและดำเนินการ 1,305,000 และจะดำเนินการจัดสรรงบประมาณในส่วนที่เหลือให้อีกในโอกาสต่อไป
3. การปรับระยะเวลาการจดทะเบียน
ตามที่นายกรัฐมนตรีมีบัญชาในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 13 มกราคม 2547 ให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาปรับระยะเวลาการจดทะเบียนให้แล้วเสร็จเร็วขึ้น เพื่อจะได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ในการนี้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า การปรับระยะเวลาการจดทะเบียนจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่พี่น้องประชาชน จึงได้ปรับระยะเวลาในการจดทะเบียน โดยใน 8 จังหวัดนำร่อง ให้แล้วเสร็จในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2547 และใน 67 จังหวัดที่เหลือ/กรุงเทพมหานครให้แล้วเสร็จในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2547 โดยได้ประสานการปฏิบัติกับจังหวัดที่มีจำนวนประชากรจำนวนมากเกินกว่า 1 ล้านคนแล้ว เช่น จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ เป็นต้น ได้รับการยืนยันว่าสามารถปรับแผนการรับจดทะเบียนให้แล้วเสร็จได้ จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดดำเนินการแล้ว และให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงด้วย
4. ปัญหา - อุปสรรค
กระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้รับรายงานปัญหา-อุปสรรค ในการดำเนินงานแต่อย่างใด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 20 มกราคม 2547--จบ--
-กภ-