คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาเรื่องที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขออนุมัติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2548 ตามกรอบการพิจารณา ดังนี้
1. กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณได้ก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณดังกล่าวไว้แล้ว จะพิจารณาผ่อนผันให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2548 เพื่อนำไปชำระหนี้ตามข้อผูกพันนั้นต่อไปได้ตามกรณี ดังนี้
(1) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2545 รายการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณไว้แล้วเป็นกรณีพิเศษ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2548 , 8 กุมภาพันธ์ 2548 , 24 สิงหาคม 2547 จะอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินได้ตามระยะเวลาที่ คณะรัฐมนตรีกำหนด หากยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป และให้ทำการเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของปีที่จะต้องจ่ายเงินนั้นในลักษณะการเบิกค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปีต่อไป
(2) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 และเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 จะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณไม่ต้องมีหนังสือขอทำความตกลงมายังกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) อีก และเพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลัง หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจใดยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด ก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป และให้ทำการเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของปีที่จะต้องจ่ายเงินนั้นในลักษณะการเบิกค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปีต่อไป
(3) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2548 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 ให้กันเงินเดือนเฉพาะกรณีที่ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว และกรณีที่ก่อหนี้ผูกพันไม่ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ก็ผ่อนผันให้สามารถทำสัญญาผูกพันได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548 นั้น หากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณได้ทำสัญญาหรือก่อหนี้ผูกพันไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ก็ให้ทำหนังสือขอทำความตกลงเพื่อขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินกับกระทรวงการคลังเป็นกรณี ๆ ไป โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลาเช่นเดียวกับเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 และ 2547
2. สำหรับเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 จำนวน 688.83 ล้านบาทและเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 จำนวน 11,321.76 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12,010.59 ล้านบาท ซึ่งส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 จะใช้กรอบการพิจารณา ดังนี้
(1) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 จำนวน 688.83 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาในการเบิกจ่ายเงินมานานเกินกว่า 3 ปีงบประมาณแล้ว เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันหรือเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 เงินงบประมาณดังกล่าวจึงต้องตกเป็นพับไป
(2) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 จำนวน 11,321.76 ล้านบาท ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณแจ้งว่าประสบปัญหาอุปสรรคในการบริหารจัดการงบประมาณดังกล่าว เช่น ได้ดำเนินการประกวดราคาแล้ว แต่ไม่มีผู้สนใจเข้าเสนอราคา หรือมีผู้เข้าเสนอราคาในวงเงินที่สูงกว่าวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรทำให้ต้องขออนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติมหรือปรับลดรูปแบบรายการลง และในกรณีที่เป็นเงินงบกลางปรากฏข้อเท็จจริงว่าเพิ่งได้รับการจัดสรรเงินประจำงวดให้ในช่วงปลายปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ทำให้ไม่อาจก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ซึ่งกรณีเช่นนี้มิใช่ความบกพร่องของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ กระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินตามกรณีนี้ เพื่อให้ส่วนราชการหรือ รัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณนำไปดำเนินการหรือก่อหนี้ผูกพันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 หากไม่สามารถดำเนินการหรือก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป สำหรับกรณีที่สามารถดำเนินการหรือ ก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในกำหนดเวลา แต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ ก็ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายเวลาเบิกจ่ายต่อไปเป็นกรณี ๆ ไป โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) รายงานว่า ได้พิจารณาข้อมูลผลการก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2547 ที่ได้รับจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ แล้วพบว่าในรอบปีที่ผ่านมาส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ รวมทั้งการดำเนินงานตามปกติควบคู่กันไปด้วย จึงอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดของโครงการ/รายการเงินงบประมาณที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นรายการที่สำคัญและ จำเป็นต่อการสนับสนุนงานนโยบายของรัฐบาล และในบางกรณีเป็นโครงการ/รายการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเป็นกรณีพิเศษไว้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานหรือการตรวจรับงาน โดยยังคงมีเงินงบประมาณที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้วและยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จสิ้น จำนวน 30,007.14 ล้านบาท (ข้อมูล ฯ วันที่ 28 ตุลาคม 2548 และเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามนัยมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กระทรวงการคลังจึงขอความเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาเรื่องการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2548 ตามกรอบการพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548--จบ--
1. กรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณได้ก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณดังกล่าวไว้แล้ว จะพิจารณาผ่อนผันให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2548 เพื่อนำไปชำระหนี้ตามข้อผูกพันนั้นต่อไปได้ตามกรณี ดังนี้
(1) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2545 รายการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณไว้แล้วเป็นกรณีพิเศษ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2548 , 8 กุมภาพันธ์ 2548 , 24 สิงหาคม 2547 จะอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินได้ตามระยะเวลาที่ คณะรัฐมนตรีกำหนด หากยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป และให้ทำการเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของปีที่จะต้องจ่ายเงินนั้นในลักษณะการเบิกค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปีต่อไป
(2) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 และเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 จะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลา โดยส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณไม่ต้องมีหนังสือขอทำความตกลงมายังกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) อีก และเพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลัง หากปรากฏข้อเท็จจริงว่าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจใดยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด ก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป และให้ทำการเจียดจ่ายจากเงินงบประมาณของปีที่จะต้องจ่ายเงินนั้นในลักษณะการเบิกค่าใช้จ่ายค้างเบิกข้ามปีต่อไป
(3) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2548 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 ให้กันเงินเดือนเฉพาะกรณีที่ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว และกรณีที่ก่อหนี้ผูกพันไม่ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ก็ผ่อนผันให้สามารถทำสัญญาผูกพันได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2548 นั้น หากส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณได้ทำสัญญาหรือก่อหนี้ผูกพันไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 ก็ให้ทำหนังสือขอทำความตกลงเพื่อขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินกับกระทรวงการคลังเป็นกรณี ๆ ไป โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลาเช่นเดียวกับเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 และ 2547
2. สำหรับเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 จำนวน 688.83 ล้านบาทและเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 จำนวน 11,321.76 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12,010.59 ล้านบาท ซึ่งส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 จะใช้กรอบการพิจารณา ดังนี้
(1) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2546 จำนวน 688.83 ล้านบาท ซึ่งมีระยะเวลาในการเบิกจ่ายเงินมานานเกินกว่า 3 ปีงบประมาณแล้ว เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณยังไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันหรือเบิกจ่ายเงินได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 เงินงบประมาณดังกล่าวจึงต้องตกเป็นพับไป
(2) เงินงบประมาณปี พ.ศ. 2547 จำนวน 11,321.76 ล้านบาท ซึ่งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณแจ้งว่าประสบปัญหาอุปสรรคในการบริหารจัดการงบประมาณดังกล่าว เช่น ได้ดำเนินการประกวดราคาแล้ว แต่ไม่มีผู้สนใจเข้าเสนอราคา หรือมีผู้เข้าเสนอราคาในวงเงินที่สูงกว่าวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรทำให้ต้องขออนุมัติเงินงบประมาณเพิ่มเติมหรือปรับลดรูปแบบรายการลง และในกรณีที่เป็นเงินงบกลางปรากฏข้อเท็จจริงว่าเพิ่งได้รับการจัดสรรเงินประจำงวดให้ในช่วงปลายปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 ทำให้ไม่อาจก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 ซึ่งกรณีเช่นนี้มิใช่ความบกพร่องของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้จ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐ กระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินตามกรณีนี้ เพื่อให้ส่วนราชการหรือ รัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณนำไปดำเนินการหรือก่อหนี้ผูกพันภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2548 หากไม่สามารถดำเนินการหรือก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในกำหนดเวลาดังกล่าวก็ให้เงินงบประมาณนั้นพับไป สำหรับกรณีที่สามารถดำเนินการหรือ ก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในกำหนดเวลา แต่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้เสร็จสิ้นได้ ก็ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขอขยายเวลาเบิกจ่ายต่อไปเป็นกรณี ๆ ไป โดยกระทรวงการคลังจะพิจารณาอนุมัติให้ขยายเวลาเบิกจ่ายเงินต่อไปในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ตามความจำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินในแต่ละช่วงเวลาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) รายงานว่า ได้พิจารณาข้อมูลผลการก่อหนี้ผูกพันเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2547 ที่ได้รับจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ แล้วพบว่าในรอบปีที่ผ่านมาส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายภาครัฐ รวมทั้งการดำเนินงานตามปกติควบคู่กันไปด้วย จึงอาจเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เสร็จสิ้นได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดของโครงการ/รายการเงินงบประมาณที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้ว ส่วนใหญ่เป็นรายการที่สำคัญและ จำเป็นต่อการสนับสนุนงานนโยบายของรัฐบาล และในบางกรณีเป็นโครงการ/รายการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเจ้าของงบประมาณขยายเวลาเบิกจ่ายเงินเป็นกรณีพิเศษไว้แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานหรือการตรวจรับงาน โดยยังคงมีเงินงบประมาณที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้แล้วและยังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินให้แล้วเสร็จสิ้น จำนวน 30,007.14 ล้านบาท (ข้อมูล ฯ วันที่ 28 ตุลาคม 2548 และเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามนัยมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กระทรวงการคลังจึงขอความเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) พิจารณาเรื่องการขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี พ.ศ. 2544-2548 ตามกรอบการพิจารณาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2548--จบ--