คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในระยะต่อไป และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินงานจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชนเกษตรกรและเครือข่ายเกษตรกรต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ
สาระสำคัญของแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในระยะต่อไป
สศช. รายงานว่า การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของไทยในช่วงที่ผ่านมามีการดำเนินงานจากหลายภาคส่วน โดยมีคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นกลไกในการขับเคลื่อนหลัก ซึ่งได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติไว้ อย่างไรก็ตามเกษตรอินทรีย์จะยังคงมีบทบาทต่อการพัฒนาภาคเกษตร โดยการขับเคลื่อนในระยะต่อไปจำเป็นต้องเน้นการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงเห็นควรปรับปรุงกลไกการบริหารจัดการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ ดังนี้
1. มอบหมายให้ กษ. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานและขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในการผลักดันการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งการเชื่อมโยงระบบการผลิตและการตลาดให้เกิดผลเป็นรูปธรรมเป็นงานภาคปฏิบัติที่จะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกรในพื้นที่
2. มอบหมายให้ กษ. ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยมี กษ. ทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ โดยให้มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันดำเนินการ
3. สำหรับการดำเนินการต้องมีการสนับสนุนและเชื่อมโยงระหว่างส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคอย่างเป็นระบบ โดยให้มีกลไกกำกับดูแลที่เชื่อมโยง ทั้งในระดับชาติ ระดับจังหวัด และพื้นที่ เพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงานพัฒนาเกษตรอินทรีย์ร่วมกันระหว่างภาครัฐในส่วนกลางและพื้นที่ เครือข่ายเกษตรกร ชุมชน ภาคเอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2554--จบ--